Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว
ประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการสู้คดีข้อพิพาทเหมืองทองอัครา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งเป็นหัวหน้า คสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปิดเหมือง ยังไม่รวมกับคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่อาจจะออกมาเร็วที่สุดภายในเดือน ต.ค. นี้ หากฝ่ายไทยแพ้ จะต้องมีค่าชดเชยที่คาดกันว่าอยู่ในระดับหมื่นล้าน
จึงมีการย้อนกลับไปเอาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” มาพูดถึงกันว่า ในเมื่อไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อไปรวมกับที่เคยระบุว่า “ผมรับผิดชอบเอง”
หากตัดสินใจแล้วมีผลลบตามมาก็ควรจะต้อง ใช้เงินตัวเองจ่าย ไม่ควรจะใช้ภาษีของประชาชน
ที่มาของคำวินิจฉัย “ไม่เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” มาจากการที่ ส.ส. ฝ่ายค้าน 7 พรรค 110 คน เข้าชื่อเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะการเป็นหัวหน้า คสช. ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
รัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) กำหนดคุณสมบัติรัฐมนตรี ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98
ซึ่ง มาตรา 98 (15) กำหนดลักษณะของคนที่ต้องห้ามสมัคร ส.ส. เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

ฝ่ายผู้ร้องยกประเด็นที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจในการออกคำสั่งที่มีผลในทางนิติบัญญัติและทางบริหาร ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินประจำตำแหน่ง 75,590 บาทต่อเดือน และเงินเพิ่มอีก 50,000 บาท รวม 125,590 บาท ต่อเดือนและยังยกแนวคำพิพากษาของศาลยุติธรรมเรื่องการฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช.ว่าเป็นความผิดอาญาฐานขัดคำสั่ง “เจ้าพนักงาน” และแนวคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าพนักงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนหนึ่งว่า หัวหน้า คสช. เป็นตำแหน่งที่มิได้แต่งตั้งตามกฎหมายของการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตามปกติ เป็นตำแหน่งเฉพาะกิจ เฉพาะกาลทีมีผู้ดำรงตำแหน่งคนเดียวในประเทศไทย เป็นตำแหน่งเฉพาะตัว

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันวันที่ 26 ก.ค. 2562 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยอธิบายว่า เจ้าพนักงานก็คือเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐคือเจ้าหน้าที่รัฐ คุณสมบัติของรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (15) พูดถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่เจ้าพนักงาน
กรณี ส.ส. 110 คน อ้างคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ โดยยกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกา แต่คำพิพากษา 34 หน้า ไม่มีบรรทัดใดเลยและไล่มาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ จนถึงศาลฎีกา ไม่มีแม้แต่นิดเดียวที่บอกว่าหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
วันที่ 18 ก.ย. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านวินิจฉัยตอนหนึ่งระบุว่า การตีความคำว่า เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ต้องตีความให้สอดคล้องกับบริบทและเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่มีเจตนารมณ์ที่จะไม่ให้ข้าราชการเข้ามาเป็นนักการเมือง รวมทั้งพนักงานหรือลูกจ้างหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
ตำแหน่งหัวหน้า คสช. มาจากการยึดอำนาจการปกครองประเทศและต่อมามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน
“หัวหน้า คสช.ไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาหรือกำกับดูแลของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐใด ทั้งเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งโดยกฎหมาย และไม่มีกฎหมายกำหนดกระบวนวิธีการได้มาหรือการเข้าสู่การดำรงตำแหน่ง โดยมีอำนาจหน้าที่เป็นการเฉพาะชั่วคราวในช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้มีอำนาจในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศและประชาชน”
“ดังนั้น ตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงไม่มีสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ หรือลักษณะงานทำนองเดียวกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ และมิใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (15) ผู้ถูกร้องจึงไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15)”
กล่าวได้ว่า คำวินิจฉัยที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ เพราะ ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ กำลังถูกย้อนนำมาเรียกร้องให้ใช้เงินตัวเองสู้คดีปิดเหมืองทอง ไปจนถึง “ค่าโง่” หากต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี
และเป็นประเด็นที่คาดว่า ในการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 2564 วาระ 2 และ 3 ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ย.นี้ จะเป็นประเด็นร้อนที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะใช้ถล่ม พล.อ.ประยุทธ์ อย่างแน่นอน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า