Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ภาพจาก FB เหมืองแร่สกลนคร

วันที่ 31 ก.ค. ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน นัดฟังคำตัดสินในคดีที่บริษัท ไชน่าหมิงต๋า โปแตช คอร์ปเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ฟ้อง นายกิจตกรณ์ น้อยตาแสง จำเลยที่ 1 กับพวก ในข้อหาละเมิด และเรียกร้องค่าเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 3,611,609.99 บาท จากกรณีชาวบ้านคัดค้านการสำรวจแร่โปแตซ บริเวณ บ.น้อยหลักเมือง ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จนบริษัทที่ได้สิทธิ์ ในการสำรวจแร่โปแตช เนื้อที่ 116,875 ไร่ อายุอาชญาบัตรพิเศษ 5 ปี ตั้งแต่ 12 มกราคม 2558 อายุสิ้นสุด 4 มกราคม 2563 ไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ โดยศาลตัดสินให้ แกนนำชาวบ้าน ชดใช้เงินรวม 1.5 ล้านบาท

น.ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูล ตัวแทนทีมทนายฝ่ายชาวบ้าน กล่าวว่า ศาลเห็นว่า การที่ชาวบ้านไปชุมนุมขัดขวางทางเข้าทำงานของบริษัทเป็นการละเมิด เนื่องจากการที่บริษัทจะเข้าไปสำรวจเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ในประเด็นเรื่องความเสียหาย บริษัทได้ฟ้องค่าเสียหายเรื่องของค่าใช้จ่ายการดำเนินเพื่อสำรวจ อาทิ ค่าแท่นปูน ค่าสายไฟ รวมทั้งเงินเดือนของ วิศวกร 13 คน ซึ่งศาลพิจารณาว่าช่วงที่ไม่สามารถทำงานได้ คือวันที่ 9-15 พฤษภาคม

ส่วนค่าเสียหายที่ไม่สามารถทำสำรวจขุดเจาะได้อีกต่อไป บริษัทฟ้องค่าเสียหายมา 2,000,000 บาท ศาลมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ การที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาคัดค้านเพราะว่าเกิดปัญหาและเมื่อร้องเรียนไปที่ไหน หน่วยงานก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ศาลยังมองด้วยซ้ำไปว่า ตรงนี้จริงๆ หน่วยงานจะต้องมารับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายให้ เพราะว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องไม่แก้ไขปัญหา จนทำให้ชาวบ้านต้องลุกมาสู้ ศาลจึงขอให้ลดหย่อนลงจาก 2 ล้านบาท เหลือประมาณ 450,000 บาท ทำให้มีค่าเสียหายทั้งหมดที่ศาลมีคำสั่ง ให้กลุ่มแกนนำชาวบ้าน ต้องชำระเป็นจำนวนเงิน 1.5 กว่าล้านบาท พร้อมทั้งชำระดอกเบี้ย ซึ่งจะมีการพิจารณายื่นอุทธรณ์ต่อไป

ด้านนายวัชรินทร์ ศรีถาพร ทนายฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า ศาลได้ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยการพิจารณาคดีศาลดูจากพยานหลัก ดูจากการกระทำของทั้งสองฝ่าย เกี่ยวกับการฟ้องร้องค่าเสียหาย ท่านมองในแง่ของการละเมิด เมื่อมีการละเมิดกันแล้วเกิดความเสียเท่าไร ส่วนนี้ทางบริษัท ยื่นฟ้องไป 3.6 แสนกว่าบาท ศาลท่านมีเมตตากับชาวบ้าน ท่านก็ลดลงให้ตามความเหมาะสม ตามที่เราจ่ายจริง เช่นค่าขาดโอกาส เราฟ้องไป 2 ล้าน ศาลก็ให้กลุ่มชาวบ้าน ชดใช้ให้บริษัทคนละ 45,000 บาท ถือว่าน้อยมาก แต่ในภาพรวมก็พอใจในคำพิพากษาครั้งนี้

ขณะที่ นายกิจตกรณ์ น้อยตาแสง จำเลยที่ 1 บอกว่า วันนี้เป็นคดีแรกของชาวบ้าน ตอนแรกชาวบ้านมั่นใจว่ามันจะเป็นไปตามแนวทางของเรา แต่สุดท้ายต้องร่วมกันชดใช้ อย่างไรก็ตาม การสู้ของเราจะไม่สูญเปล่าจะสู้ต่อไป ด้านนางมะลิ แสนบุญศิริ จำเลยที่ 4 กล่าวว่า วันนี้ถึงจะโดนคดี ไม่ว่าจะคดีต่อๆ ไปก็พร้อมที่จะสู้ คนเราเกิดมาภูมิใจที่ได้ทำความดีเพื่อแผ่นดินเพื่อพี่น้อง

ส่วน น.ส.สุดตา คำน้อย จำเลยที่ 2 กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้เราเห็นพี่น้องที่ไม่ทิ้งเรา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคน 9 คน แต่เป็นเรื่องของคนไทวานร เราไม่เคยมาศาล เราไม่เคยมาฟังคำพิพากษา ไม่เคยแม้แต่การสืบพยาน แต่วันนี้ทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องทำอะไรมากกว่าเดิม จะต้องเรียนรู้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเราจะสู้แบบเดิมๆ กฎหมายเราก็ต้องรู้จัก มันมีหลายๆ อย่างที่เราจะต้องกลับไปปรับปรุงตนเอง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า