หลังจากที่ในเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 5 ก.ค. 2564 มีรายงานรับแจ้งเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงานแห่งหนึ่งซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซึ่งล่าสุดได้มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่แล้ว
สำหรับ บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด นั้น ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่าเป็นบริษัทผลิตเม็ดโฟม เม็ดพลาสติก และพลาสติกขั้นต้น โดยก่อตั้งในประเทศไทยตั้งแต่ 20 มิ.ย. 2532 ทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท และสถานะปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่
โดยมีรายชื่อกรรมการทั้งหมด 4 คน ได้แก่ นายจื้อกว๋อ อู๋, นายอี้ โชว ลี่, นายเจิ้น-เหวย หง และนายฉง-ห่าว หง
ทั้งนี้ ผลประกอบการ 5 ปีย้อนหลังของหมิงตี้เคมีคอลที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย มีดังนี้
ปี 2559 รายได้ 1,449 ล้านบาท กำไร 18.5 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 1,487 ล้านบาท กำไร 25.4 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 1,708 ล้านบาท กำไร 29.8 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 1,293 ล้านบาท กำไร 21.1 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 1,202 ล้านบาท กำไร 25.7 ล้านบาท
โดยบริษัทหมิงตี้เคมีคอลนั้นมีบริษัทแม่อยู่ที่ไต้หวัน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2529 โดยมีจุดประสงค์หลักคือการผลิตวัสดุขั้นต้นประเภท EPS (Expandable Polystyrene) เพื่อนำไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง, ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไป
สำหรับ EPS เป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดหนึ่งที่เกิดจากผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตปิโตรเลียม มาในรูปเม็ดพลาสติกเรซิ่น เมื่อผสมสารพองตัวแล้วจะได้เม็ดโฟมที่น้ำหนักเบา เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี ป้องกันเสียงและน้ำได้ ตัดขึ้นรูปได้ง่าย มักนำไปใช้งานได้หลากหลายประเภท เช่น งานก่อสร้างอาคาร บ้านแบบประหยัดพลังงาน งานก่อสร้างถนน สะพาน งานก่อสร้างบ้านลอยน้ำ งานกันฉนวนความร้อน เป็นต้น
สำหรับโรงงานในไต้หวัน มีการส่งออกสินค้าไปยังหลายประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, จีน, ยุโรป, ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาปริมาณการผลิตนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ที่เพิ่มสูงจึ้น และปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 160,000 ตันต่อปี
บริษัทระบุในเว็บไซต์ว่า เนื่องจากประเทศไทยเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าสูง ทำให้การมาตั้งโรงงานในประเทศไทยเป็นข้อได้เปรียบของบริษัทอย่างไรก็ตาม การขยายธุรกิจมายังประเทศไทย ไม่เพียงแต่ผลิตสินค้าเพื่อป้อนให้กับตลาดในไทยเท่านั้น แต่เป็นความต้องการขยายการส่งออกไปยังภูมิภาคอื่น และเพิ่มการผลิตและจำหน่ายในตลาดทั่วโลก โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 30,000 ตันต่อปี และส่วนใหญ่ผลิต EPS
ที่มา:
https://www.mingdih.com.tw/list/cate-9321.htm
https://www.facebook.com/workpointTODAY/posts/1643437602692178
https://www.insufoam.co.th/%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%A1_Und_EPS_Und_%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/59afa83f9ebe380001494e4c?fbclid=IwAR2jmCHYIMhEhIC66ZxZCvWro4fOqc9UoIB3bGvDJHQt7UkdbSkMGo0Knkg