พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานระบุเตรียมมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ในวันแรงงาน 1 พ.ค. 2567 นี้ โดยจะมีรายละเอียดเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นตำทั่วประเทศ 400 บาท ซึ่งจะดำเนินการเร็วขึ้นจากแผนงานที่วางเอาไว้ นอกจากนั้นยังมีแผนการดำเนินการซึ่งจะเป็น “ของขวัญ” ที่จะมอบให้.
“ทางคณะกรรมการไตรภาคีซึ่งมีท่านปลัดกระทรวงแรงงาน มีการจัดประชุมนะครับ ในเรื่องของการหารือเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำ ว่าเราจะให้เป็นของขวัญต้อนรับวันแรงงาน ก็การที่จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในวันแรงาน จะประกาศให้พี่น้องชาวแรงงานหรือชาวกรรมกรของพวกเรา ได้เฮ เราจะมีการประกาศค่าแรงขั้นต่ำที่ 400 บาททั้งประเทศ ภายในปีนี้แน่นอน” พิพัฒน์ กล่าว
สำหรับขยายเวลาวงเงินกู้สำหรับแรงงานอิสระทำงานจากที่บ้าน ซึ่งปัจจุบันมีผู้กู้ไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท เดิมจะหมดอายุในวันที่ 30 เม.ย. นี้ แต่ได้หารือกับอธิบดีกรมการจัดหางานหากวงเงินยังใช้ไม่หมด ขอให้ขยายเวลาออกไปให้วงเงินกู้สามารถใช้ได้จนหมด เพราะเป็นประโยชน์ ซึ่งใน 2 ปีแรกไม่มีดอกเบี้ย ส่วนปีที่ 3 คิดดอกเบี้ย 2%
นอกจากนั้นยังมีการผลักดันอนุสัญญาฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ค.ศ. 1948 และอนุสัญญาฉบับที่ 98 ว่าด้วยการปฏิบัติตามหลักการแห่งสิทธิในการรวมตัวกันและสิทธิในการร่วมเจรจาต่อรอง ค.ศ.1949 ผ่านขั้นตอนที่ 1 จากทั้งหมด 7 ขั้นตอน อยู่ในช่วงกลั่นกรองข้อกฎหมายโดยคณะกรรมการไตรภาคี โดยตั้งเป้าในช่วงมิถุนายน – กันยายน จะนำเข้าครม.และเข้าสู่กฤษฎีกา หลังจากนั้นจะนำเข้าสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ด้วยเงื่อนไขของกระบวนการทางกฎหมาย
พิพัฒน์ ระบุว่า ขณะนี้ผู้ใช้แรงงานได้ช่วยกันผลักดัน โดยหลักใหญ่ฝ่ายนายจ้างก็จะไม่ค่อยเห็นด้วยในฉบับที่ 87 ถ้าฉบับที่ 98 ฝ่ายนายจ้างค่อนข้างจะเห็นด้วย แต่ฝ่ายข้าราชการมีทั้งเห็นด้วย งดออกเสียง ทั้งสองฉบับ เพราะฉะนั้นต้องดูว่าสุดท้ายแล้วทางลูกจ้าง นายจ้าง และข้าราชการจะเลือกให้ผ่านทั้งสองฉบับ หรือฉบับเดียว ทั้งนี้กระทรวงแรงงานมุ่งมั่นที่จะประกาศใช้ทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งผู้ใช้แรงงานสามารถมีส่วนร่วมในการผลักดันให้กฎหมายเกิดขึ้นจริง โดยทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 ฉบับ
“ผมดีใจที่เราสามารถผ่านมติขั้นที่ 1 ทั้งฉบับที่ 87 และ 98 ซึ่งตลอดระยะเวลา 30 ปี ไม่เคยผ่านขั้นตอนแรก เพราะฉะนั้นตัวผมเองพยายามจะให้ผ่านทุกขั้นตอนภายในรัฐบาลชุดนี้ แต่ทั้งหมดอยู่ที่คณะกรรมการไตรภาคี ว่าเห็นด้วยทั้งสองฉบับ หรือเห็นด้วยฉบับใดฉบับหนึ่ง แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี สำหรับตัวผมเห็นด้วยทั้ง 2 ฉบับ” พิพัฒน์ ระบุ
สำหรับการผลักดันอนุสัญญาฉบับที่ 144 ว่าด้วยการปรึกษาหารือไตรภาคี (มาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ) ค.ศ.1976 และอนุสัญญาฉบับที่ 155 ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ค.ศ.1981 จะทำให้แล้วเสร็จก่อนที่จะไปประชุม ILO ในวันที่ 11 -15 มิถุนายน ที่กรุงเจนีวา โดยมั่นใจว่า อนุสัญญาฉบับที่ 144 จะเสร็จทัน แต่ฉบับที่ 155 จะพยายามทำให้ทัน ตั้งเป้าจะประกาศรับรองอย่างเป็นทางการในที่ประชุมที่กรุงเจนีวา