ในยุคแห่งโรคระบาด ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความท้าทาย โดยเฉพาะร้านอาหารที่ชูจุดเด่นเรื่องการนั่งกินร่วมกันในร้าน เนื่องจากมาตรการปิดเมืองส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้
TODAY Bizview เปิดงบการเงินของบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MK สุกี้ที่เรารู้จักกันดี เพื่อให้เห็นภาพของธุรกิจร้านอาหาร และเนื่องจากบริษัทนี้มีร้านอาหารที่หลากลายอยู่ในเครือ ได้แก่
-ร้านสุกี้ = เอ็มเค สุกี้, เอ็มเค โกลด์, เอ็มเค ไลฟ์
-ร้านอาหารญี่ปุ่น = ยาโยอิ, ร้านฮากาตะ ราเมน, มิยาซากิ เทปปันยากิ
-ร้านอาหารไทย = แหลมเจริญ ซีฟู้ด, ณ สยาม, เลอ สยาม,
-ร้านอาหารอื่นๆ = เลอ เพอทิท, บิซซี่ บ็อกซ์, เอ็มเค ฮาร์เวสต์
ผลประกอบการของ MK ในไตรมาส 3 ปี 2021 พบว่า
-รายได้ 1,973 ล้านบาท
-ขาดทุน 257 ล้านบาท
เทียบกับผลประกอบการของ MK ไตรมาส 3 ปี 2020 พบว่า
-รายได้ 3,799 ล้านบาท
-กำไร 465 ล้านบาท
สรุปว่ารายได้ของ MK ในไตรมาส 3 ปีนี้ลดลงไปเกือบครึ่ง (-48%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนกำไรอาการหนัก เพราะติดลบมากถึง -155%
นอกจากนั้น ถ้ามองภาพใหญ่จะเห็นภาพมากขึ้น เมื่อดูงบการเงินของ MK ในภาพรวม 9 เดือนแรกของปีนี้ จะพบว่า
-รายได้รวม 7,599 ล้านบาท ลดลงจาก 9 เดือนแรกของปีก่อนที่ทำไว้ถึง 9,756 ล้านบาท
-ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนแรกขาดทุนรวมมากถึง 268 ล้านบาท แตกต่างจาก 9 เดือนแรกของปีก่อนหน้าที่ทำกำไรไว้มากถึง 558 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนลดลงมากถึง -148%
มากกว่านั้น ถ้าเทียบกับปีก่อนๆ หน้า จะพบว่า MK มีกำไรมาโดยตลอด
-ปี 2019 กำไร 2,604 ล้านบาท
-ปี 2020 กำไร 907 ล้านบาท
-9 เดือนแรกของปี 2021 ขาดทุน 268 ล้านบาท
แน่นอนว่า สำหรับปีนี้ ยังเหลืออีก 1 ไตรมาสส่งท้าย ต้องติดตามรอดูว่า MK จะสามารถพลิกกลับขึ้นมามีกำไรได้หรือไม่
ทำไมปีนี้ MK ขาดทุนหนัก
ในรายงานผลประกอบการของ MK ระบุว่า ในไตรมาส 3 ของปีนี้ เหตุผลที่รายได้หดหายไปมากกว่า 1,800 ล้านบาทนั้น เป็นเพราะโควิดที่ระบาดมากขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึงรัฐบาลที่ใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ทั้งสั่งปิดร้าน สั่งห้ามนั่งกินอาหารในร้าน ชั่วโมงในการเปิดร้านที่น้อยลง รวมถึงบางพื้นที่เปิดร้านได้แต่ให้ลูกค้านั่งได้อย่างจำกัด
ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อรายได้การขายและการบริการของธุรกิจร้านอาหารนเครือของ MK
รายได้ไม่เติบโต แต่มีสิ่งที่น่าสนใจคือ ธุรกิจเดลิเวอรี่
การเติบโตในส่วนธุรกิจเดลิเวอรี่ของ MK น่าสนใจ เพราะในขณะที่สัดส่วนการนั่งกินในร้านอาหาร (Dine-in) ลดลงจากปีก่อนที่ 77% เหลือเพียง 64% แต่ธุรกิจส่วนเดลิเวอรี่กำลังเติบโต
ถ้าเทียบอัตราการเติบโตใน 9 เดือนแรกของปีนี้กับ 9 เดือนแรกในธุรกิจเดลิเวอรี่ของ MK ในปีก่อนหน้า จะพบว่า เติบโตขึ้นมาจาก 11% เป็น 22%
แต่ที่น่าคิดคือ แม้ว่าธุรกิจส่วนเดลิเวอรี่ของ MK จะเติบโตขึ้นมาจากปีก่อนหน้ามากกว่า 10% แต่รายได้ของทั้งบริษัทกลับลดลง นั่นแปลว่าธุรกิจส่วนเดลิเวอรี่ยังไม่สามารถทดแทนรายได้จากการนั่งกินในร้านได้
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทเอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป มาจากร้านเอ็มเคสุกี้ 74% รองลงมาคือร้านยาโยอิ 19% ตามมาด้วยแหลมเจริญ ซีฟู้ด 5% และที่เหลือเป็นร้านอื่นๆ ในเครือทั้งหมด
อ้างอิง งบการเงิน MK, ภาพรวมธุรกิจ MK