SHARE

คัดลอกแล้ว

เปิดนโยบายเร่งด่วนคมนาคม ใน 1 เดือน เพิ่มความเร็วถนน 4 ช่องจราจรเหยียบได้ 120 กม./ชม. – ปรับเวลารถบรรทุก 10 ล้อเข้ากรุงเทพฯ หลังเที่ยงคืนไม่เกินตี 4 ศึกษาลดค่ารถไฟฟ้า 3 สาย ค่าทางด่วน 5-10 บาท แกร๊บถูกกฎหมาย ใน 3 เดือน เตรียมเปิด PPP ร่วมทุนเอกชนทำรถไฟทางคู่

(ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม)

ที่กระทรวงคมนาคม วันที่ 30 ก.ค. ภายหลังการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย นโยบายเร่งด่วน 4 เรื่อง ดังนี้

1) การแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการปรับปรุงถนนพระราม 2

2) การแก้ไขปัญหามลภาวะ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากรถบรรทุก รถโดยสารสาธารณะ โดยเข้มงวดการตรวจสอบสภาพรถให้เป็นไปตามกฎหมาย

3) ปรับเวลารถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกวิ่งบนถนนทางหลวงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ในช่วงเวลา 24.00-04.00 น. จากเดิมตามกฎหมายอนุญาตให้วิ่งได้ช่วง 10.00 – 15.00 น.

4) กำหนดอัตราความเร็วถนน 4 ช่องทางจราจรขึ้นไป ให้ใช้อัตราความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (จากเดิมไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เพื่อระบายการจราจรให้คล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูล และนำเสนอแผนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนทั้ง 4 เรื่อง ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

 

2.สร้างทางเลือกใหม่ โดยการให้บริการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่น และกำหนดแนวทาง มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ (TAXI) รูปแบบเดิม โดยมอบให้กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการดังนี้

1) ศึกษารูปแบบ เงื่อนไขการอนุญาตบริการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้บริการประชาชน หรือ แกร๊บถูกกฎหมาย

2) ศึกษาและกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถรับจ้างโดยสารสาธารณะ (TAXI) ในปัจจุบัน ให้มีการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ทั้งนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและนำเสนอแผนงาน พร้อมแนวทางปฏิบัติทั้ง 2 เรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

 

3. การพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบด้วย

1) ศึกษาและจัดทำแผนการใช้บัตรโดยสารเชื่อมโยงรถไฟฟ้าทุกระบบ

2) ศึกษาและจัดทำแผนแก้ปัญหาด่านเก็บเงินทางพิเศษ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorway) ให้รถสามารถผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว ลดความแออัดของรถบริเวณหน้าด่าน

 

4. ลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ดังนี้

1) พัฒนาการให้บริการรถโดยสารประจำทาง ขสมก. และรถร่วมโดยสารประจำทาง ให้เป็นรถโดยสารปรับอากาศทั้งระบบ และมีการจัดเก็บค่าโดยสารเป็นระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E–Ticket ระบบตั๋วร่วม

2) ศึกษาแนวทางการปรับ ลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยไม่มีผลกระทบต่อสัญญา 3 สาย ได้แก่

-รถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-เตาปูน

-รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ช่วงพญาไท-สุวรรณภูมิ

-รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่จะเปิดให้บริการในปี 2564

3) ศึกษาแนวทางการปรับลดค่าผ่านทางพิเศษทุกประเภท (ทางพิเศษ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โทลล์เวย์) ตั้งแต่ 5 – 10 บาท โดยไม่มีผลกระทบต่อสัญญา ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทาง พร้อมนำเสนอแผนงานแนวทางปฏิบัติ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

 

5. พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางราง ประกอบด้วย

1) พัฒนารถไฟทางคู่ เพิ่มการขนส่งระบบราง 30% ภายในเวลา 3 ปี เพื่อให้เป็นระบบโลจิสติกส์หลักในการขนส่งสินค้า

2) สนับสนุนภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

3) ศึกษา วิจัย และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากรางที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสามารถใช้ให้เกิดผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าสูงสุดในอนาคต เพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

6. พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ประกอบด้วย

1) พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำให้เป็นการเดินทางและการขนส่งทางเลือกในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเชื่อมโยงกับการคมนาคมขนส่งระบบอื่น ๆ ได้

2) พัฒนาการขนส่งทางน้ำจากท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อลดปริมาณรถบรรทุกจากภาคใต้เข้าสู่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

 

7. พัฒนาการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ประกอบด้วย

1) พัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางอากาศ เพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูมิภาค ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านคนต่อปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า

2) สนับสนุนสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Airline) ให้บริการประชาชนในภูมิภาคเพิ่มขึ้น และให้มีคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานสากล

สำหรับการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วย 2 คน

(ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม)

นายถาวร เสนเนียม กำกับดูแลหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมด้านการขนส่งทางอากาศ ประกอบด้วย

  1. กรมท่าอากาศยาน
  2. บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
  3. สถาบันการบินพลเรือน
  4. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
  5. บริษัท ไทย – อะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด
  6. บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด
  7. บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด

(อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม)

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ กำกับดูแลหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมด้านทางน้ำ ประกอบด้วย

  1. กรมเจ้าท่า
  2. การท่าเรือแห่งประเทศไทย

 

ขอบคุณภาพ: ข่าวและภาพกิจกรรมกระทรวงคมนาคม

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า