SHARE

คัดลอกแล้ว

พูดกันมานานว่าประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลาง นานซะจนไม่รู้ว่าจะขยับเลเวลได้กี่โมง

แต่ใช่ว่าจะไม่มีความพยายามอะไรเลย เพราะเราตั้งเป้าในแผนยุทธศาสตร์ชาติว่า อยากเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2580 หรือในปี 2037

โดยเขียนไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2561-2580) ที่ต้องการขยับขึ้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วหรือเป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้สูง

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาธนาคารโลก (World Bank) จัดให้ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับบน (upper middle income) มาอย่างต่อเนื่อง

เพราะว่าไทยมีรายได้ประชากรต่อหัว (GNI per capita) แบบที่ยังไม่หลุดพ้นเกณฑ์ ซึ่งถ้าจะขึ้นไปเป็นประเทศรายได้สูงประชากรต้องมีรายได้ต่อหัวมากกว่า 13,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 487,000 บาทต่อปี

แต่สำหรับไทยปัจจุบันรายได้ประชาชาติต่อหัวยังอยู่ที่ประมาณ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 236,000 บาทต่อปีเท่านั้นเองยังห่างตั้งเกือบครึ่ง

หากเรานับจากปีปัจจุบัน 2568 ไปถึงปี 2580 ตามแผนยุทธศาสตร์ ประเทศไทยจะมีเวลาอีกราว 12 ปีในการไล่ทำตามความฝันนี้ให้สำเร็จ

แต่จะเป็นไปได้ไหม วันนี้ไทยยังมีปัญหาหลายเรื่องที่ยังเป็นอุปสรรคที่อาจทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น

  • โครงสร้างประชากรไทยที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อาจทำให้แรงงานลดลงไปมาก
  • ระบบการศึกษาและทักษะแรงงานไทยที่ยังล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว
  • การเมืองและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนอาจกระทบต่อการลงทุน
  • การแข่งขันจากประเทศอื่นโดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน  เช่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่กำลังเติบโตได้รวดเร็วกว่า
  • หนี้ครัวเรือนไทย อุปสรรคสำคัญที่อาจขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงในอนาคต

ทั้งหมดเป็น ‘ปัญหาเชิงโครงสร้าง’ ที่ไทยกำลังเผชิญอยู่

พูดง่ายๆ ว่า การจะทำให้คนไทยรวยขึ้น มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำได้ไม่ใช่เรื่องง่าย

พอไปลองมองตัวอย่างประเทศที่สามารถเปลี่ยนจากประเทศรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงได้สำเร็จ ประเทศเหล่านี้ใช้วิธีไหนหรืออุตสาหกรรมไหนในการผลักดันเศรษฐกิจของตัวเองกันบ้าง

ถ้าไปดู โมเดล ‘เกาหลีใต้’ หากใครเคยไปประเทศนี้อาจจะสัมผัสได้ถึงความเจริญที่ค่อนข้างต่างจากไทยพอสมควร ในอดีตประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ยากจนมากหลังสงคราม โดยในปี 1960 รายได้เฉลี่ยประชากรยังต่ำกว่า 200 ดอลลาร์ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ใช้กลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมหนักและการส่งออก โดยเริ่มจากการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า, รถยนต์, และเทคโนโลยีสูง รวมถึงลงทุนเกี่ยวกับการศึกษาและเทคโนโลยี จนมีบริษัทระดับโลก เช่น Samsung, Hyundai, LG

ปัจจุบันเกาหลีใต้มีรายได้ประชากรต่อหัวมากกว่า 30,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 1,014,000 บาทต่อปี กลายเป็นเป็นประเทศรายได้สูงตั้งแต่ปี 2004

ส่วนในภูมิภาคอาเซียนบ้านเรา ประเทศที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุด (ข้อมูลปี 2023) คือ สิงคโปร์ มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดในภูมิภาค ประมาณ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ประมาณ 2,029,000 บาท  ตามด้วยบรูไนฯ มีรายได้ประชากรต่อหัวประมาณ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,183,000 บาท

ซึ่งทั้งสิงคโปร์ และ บรูไนฯ เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการเงินและการค้าของโลก และเป็นหนึ่งในฮับทางการค้าที่สำคัญของเอเชียและโลก

ส่วนบรูไนเป็นประเทศที่มีรายได้สูงจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ ที่สำคัญบรูไนฯ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการผลิตและการส่งออกพลังงานเป็นหลัก

ส่วนประเทศไทย การพึ่งพิงอุตสาหกรรมแบบเดิมๆ รู้กันดีว่าหนทางเหนื่อยและแข่งกับโลกได้ยากรออยู่ข้างหน้า สิ่งที่จะช่วยได้เร็วที่สุดแบบ เสียพลังงานและต้นทุนน้อยกว่าและได้ไว คือ การลุยภาคบริการ เกษตร และอาหาร เน้นไปที่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้มาก

พูดง่ายๆ ลองเพิ่มวิธีออกแรงจากที่เคยออกแรงแค่กล้ามเนื้อ ก็มาเพิ่มเป็นเรื่องภูมิปัญญาเข้าไปเสริมให้มากขึ้น

ดังนั้นประเทศที่มีอุตสาหกรรมที่โดดเด่นและมีความสามารถในการ ‘สร้างจุดยืนทางเศรษฐกิจ’ ที่แข็งแกร่ง เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประเทศนั้นๆ มีรายได้สูง

มามองที่ประเทศไทยอุตสาหกรรมที่เด่นๆ และเป็นจุดขายที่ต้องไปต่อมีหลายด้าน เช่น การเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการสื่อสาร รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงาน

การที่ไทยยังไม่เป็นประเทศรายได้สูง แม้มีอุตสาหกรรมหลายด้าน ไม่ได้หมายความว่า เราไม่มีศักยภาพแต่เพราะเรามีปัญหาหลายอย่างที่สะสม และไม่ได้แก้ไขให้ถึงโครงสร้างระบบ

วันนี้ถ้าสามารถแก้ปัญหาที่รากฐานได้จะช่วยผลักดันให้ไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้ในอนาคต แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะทำได้สำเร็จกี่โมงในปีไหน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า