เปิดใจ ไดน่า-ดร.มนนิการ์ ซิงห์ ภาคต่อของ “แหล่งมั่วสุมทางปัญญา” ขั้นกว่าของพื้นที่อ่านหนังสือฟรี

หากเอ่ยถึง TOO FAST TO SLEEP แน่นอนว่านิยามของ “แหล่งมั่วสุมทางปัญญา” จะต้องลอยขึ้นมาในหัวของใครหลายๆ คน เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า คุณเอนก จงเสถียร เจ้าของธุรกิจฟิล์มถนอมอาหาร บริษัท เอ็มเอ็มพี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และเป็นผู้ก่อตั้งร้าน TOO FAST TO SLEEP ด้วยเจตนารมณ์ที่ว่า ต้องการให้นักศึกษามีพื้นที่ในการอ่านหนังสือฟรี 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งร้าน TOO FAST TO SLEEP เปิดตัวตั้งแต่ ปี พ.ศ.2553 โดยสาขาแรกเปิดบริเวณใกล้กับรถใต้ดินสามย่าน และเพิ่มมาอีก 6 สาขา รวมทั้งสิ้น 7 สาขา

แต่แล้วเมื่อปี พ.ศ.2564 TOO FAST TO SLEEP ได้ทยอยปิดตัวลง เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 และกลับมาเปิดอีกครั้ง โดยมีการเปิดสาขาใหม่ที่เป็นเสมือนภาคต่อของ “แหล่งมั่วสุมทางปัญญา” สาขา Charn The Avenue แจ้งวัฒนะ ภายใต้การนำของผู้บริหารคนใหม่ คุณไดน่า-ดร.มนนิการ์ ซิงห์ ซึ่งการเปลี่ยนผู้บริหาร ย่อมต้องมีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของธุรกิจนั้นๆ เป็นของธรรมดา และต่อไปนี้คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด

การกลับมาของ TOO FAST TO SLEEP ภายใต้การนำของผู้บริหารคนใหม่

แต่เดิมนั้น คุณไดน่า ทำธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น สินค้าประเภท FMCG ( Fast-moving consumer goods หรือที่รู้จักกันดีว่า สินค้าอุปโภคบริโภค) อีกทั้งยังมีโรงงานผลิตกระเป๋าให้แบรนด์ต่างๆ OEM (Original Equipment Manufacturer) นอกจากนี้คุณไดน่ายังเป็นอาจารย์ และเป็นคนไทยเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นสุดยอดนักการตลาดเอเชีย (Asia’s Youth Women Netizen Marketing Excellence Award 2019 for the outstanding achievement in the category of Asia’s Top Outstanding Youth Marketer of the year given by Asia’s Marketing Federation.) ที่ประเทศมาเลเซียอีกด้วย

ส่วนจุดที่ทำให้คุณไดน่าเข้ามาบริหาร TOO FAST TO SLEEP เกิดจากการที่เธอเป็นที่ปรึกษาธุรกิจให้กับบริษัทของคุณอเนก จงเสถียร ซึ่งคุณอเนกกล่าวถึง TOO FAST TO SLEEP ว่าเขาเองก็อายุมาก ไม่มีใครสานต่องานตรงนี้  และคุณไดน่าซึ่งนับถือคุณอเนกเหมือนคุณพ่ออยู่แล้ว อีกทั้งเธอยังชื่นชอบการทำงาน ชอบการศึกษา และชอบคิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ จึงขอโอกาสในการสานต่อ TOO FAST TO SLEEP ทั้งหมด  

ผู้บริหารใหม่ แนวคิดใหม่ หลังฟื้นตัวจากภาวะ COVID-19

คุณไดน่าเล่าถึงแนวคิดการฟื้นฟู TOO FAST TO SLEEP เอาไว้ว่า

“หลังกลับมาเปิด TOO FAST TO SLEEP อีกครั้ง มีการแบ่ง Business Model ออกเป็นสองอย่าง ทั้งแบบ Commercial ในส่วนนี้จะเป็นพื้นที่เสียเงิน ที่ไม่ได้แค่อ่านหนังสืออย่างเดียว และสองก็คือ Non-Commercial พื้นที่อ่านหนังสือฟรีไม่เสียเงิน ซึ่งจริงๆ แล้ว เราก็นำเงินจากฝั่ง Commercial ไปดูแลฝั่ง Non-Commercial เพื่อสานต่อเจตนารมณ์เดิม คือการคืนสู่สังคมของคุณอเนกที่เคยทำมาก่อน นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับรฟม. (การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) เพื่อสร้างห้องสมุดชุมชนโดยจะเริ่มที่รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีคลองเตยก่อน”

“การใช้ประโยชน์ของห้องสมุดชุมชน จะไม่ใช่การมาอ่านหนังสือเฉยๆ และสถานที่แห่งนี้ใครก็สามารถมาใช้บริการได้ ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า พี่วินมอเตอร์ไซค์ พระสงฆ์ ทุกคนใช้ฟรีค่ะ จะมีผู้เชี่ยวชาญมาสอนในเรื่องของวิชาชีพ เช่น การไลฟ์ หลังจากไลฟ์เสร็จ สามารถนำสินค้าที่ขายไปส่งไปรษณีย์ได้ทันที และยังมีห้องซ้อมดนตรีเป็นพื้นที่ให้เด็กๆ ได้ฝึกซ้อมด้วยค่ะ เรียกว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้พวกเขาได้”  

ให้เสียงของเยาวชนสะท้อนผ่านโครงการประกวดออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์ TOO FAST TO SLEEP คลองเตย

สำหรับพื้นที่ใช้งาน TOO FAST TO SLEEP คลองเตย คุณไดน่าต้องการที่จะให้คนที่อยู่บริเวณนี้ได้ใช้งานฟรี และในเรื่องของการออกแบบพื้นที่ เธอเล่าถึงแนวคิดของการให้เยาวชนมีส่วนร่วมไว้ว่า

“ถ้าถามเด็กสมัยนี้ว่าเขาชอบอะไร ส่วนมากมักจะไม่ได้คำตอบ แต่หากถามว่าไม่ชอบอะไร เขาจะตอบง่ายกว่า จึงคิดว่าถ้าเยาวชนจะต้องมานั่งพื้นที่ตรงนี้เสียเอง จะต้องมีอะไรบ้างที่ทำให้ไม่เสียสมาธิแล้วตัวเราเองเติบโตได้ และต้องไม่เติบโตเพียงเราเท่านั้น แต่ให้คิดเผื่อคนรอบข้าง คิดเผื่อชุมชนด้วย จึงให้น้องๆ ทำการแข่งขันกัน เพราะหากเป็นพื้นที่ที่สวยงามแต่ใช้งานไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์”

คุณไดน่าแอบกระซิบดังๆ ด้วยว่า ผลงานของน้องๆ แต่ละทีมอลังการมาก ฝีมือระดับเทพทั้งนั้น ยอมรับในความสามารถจริงๆ

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ที่ปังไม่แพ้กัน นั่นก็คือโปรเจ็กต์เกี่ยวกับการจัดงานแต่งให้คู่รัก LTBTQIA+ เรียกว่ามีคนร่วมกิจกรรมกันมากมาย และเป็นโปรเจ็กต์ที่เข้าถึงกลุ่ม LTBTQIA+ ได้อย่างแท้จริง

ชาว LTBTQIA+ มาแต่ตัว เรื่องแต่งงาน TOO FAST TO SLEEP จัดให้

คุณไดน่าเล่าถึงจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ว่า เธอมีเพื่อนเป็นชาว LTBTQIA+ เยอะอยู่แล้ว และคิดว่านี่คือช่วงเวลาของพวกเขาแล้ว เธออยากจะทำโปรเจ็กต์ที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่การโพสต์ถึงเรื่องนี้ตามกระแส

“เราคิดแคมเปญออกมา ให้ทุกคนเขียนเรื่องราวความรักของตัวเอง ทุกเรื่องที่ส่งมาธรรมชาติมากๆ เพราะความรักไม่มีการแบ่งแยก แต่ก็ต้องหาคู่รักเพียงหนึ่งคู่ เป็นคู่ที่ชนะเลิศ เมื่อได้คู่ที่ชนะแล้วเราให้พวกเขามาแต่ตัวได้เลย เรามีทุกอย่างให้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ช่างภาพ ช่างหน้า ช่างผม ช่างถ่ายคลิป นักดนตรี อาหาร คุณอเนกก็ชอบค่ะ เพราะเป็นกิจกรรมที่ดี เปิดกว้าง แสดงถึงอิสรภาพ”

หลังจากการพูดคุยถึงโปรเจ็กต์เพื่อสังคมกันไปแล้ว ก็มาถึงประเด็นของภาคต่อที่คุณไดน่านิยามว่า เป็น TOO FAST TO SLEEP ในแบบฉบับที่โตขึ้น เปรียบง่ายๆ ก็คือถ้า TOO FAST TO SLEEP สาขาสยามที่เป็นโครงการทำร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ที่เปิดให้นักเรียน นักศึกษามาอ่านหนังสือ ฉะนั้น TOO FAST TO SLEEP ซึ่งเป็นสาขาที่ Charn The Avenue แจ้งวัฒนะ ก็จะเป็นพื้นที่ให้กับวัยทำงาน (เป็นส่วนใหญ่)

เติบโตอย่างมีความสุข

“สาขาใหม่เปรียบเหมือนโตขึ้นจากความเป็นนักศึกษาขยับไปเป็นวัยทำงาน หรือทำธุรกิจ พื้นที่ตรงนี้สามารถทำได้ตั้งแต่อ่านหนังสือ หรือจะนั่งทำงานที่ Co–Working Space ประชุมในห้องประชุมที่เลือกธีมได้ ช่วงพักมีอาหาร ร้านกาแฟ ถ้ารู้สึก Burn out ก็มีกิจกรรมให้ Workshop มีพื้นที่ให้นั่งสมาธิ หรือเหนื่อยมากๆ ต้องการผ่อนคลายทางเราก็มีเบียร์ไทยให้ดื่มด้วย”

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นหากใครที่ต้องการร้องเพลง เล่นดนตรี ทุกวันอังคารที่ TOO FAST TO SLEEP สาขา Charn The Avenue แจ้งวัฒนะ ตอบโจทย์คนทำงานที่อยากพัก สามารถรวมกลุ่มกันมาตั้งวงดนตรีช่วงเย็นเพื่อปลดปล่อยความเครียด หรือเป็นการทำในสิ่งที่รัก เพื่อเติม Passion ในตัวเองก็ได้เช่นกัน ทางร้านเปิดพื้นที่ให้ได้แสดงออกเต็มที่

ทำถึง ทันกระแส ครบจบที่ TOO FAST TO SLEEP

ไม่เพียงเป็น Co–Working Space หรือพื้นที่ให้ผ่อนคลายธรรมดาๆ เท่านั้น เพราะที่นี่ยังมีห้องไลฟ์ มีพื้นที่สำหรับแคสติ้งถ่ายรูป ถ่ายภาพโปรไฟล์ ต้องการจะถ่ายอะไรที่สะท้อนความเป็นตัวก็ทำได้ หรือต้องการจะทำคลิป เพียงแค่บอกมาว่าต้องการทำอะไร เช่นที่ผ่านมา มีการทำคลิปอโยธยาเมคอัพ ที่ร้านจะทำการจองช่างหน้า ช่างผม ถ่ายคลิป ตัดต่อให้ ลูกค้าแค่รับคลิปไปอัปโหลดลงโซเชียลมีเดียได้อย่างสบายๆ

นอกจากนี้ คุณไดน่าได้เล็งเห็นว่า ปัญหาการเป็นหนี้เพราะค่าใช้จ่ายในการแต่งงานค่อนข้างสูง จึงมีบริการสำหรับคู่รักที่ต้องการแต่งงานในงบจำกัด จับต้องได้ เพียงแค่มาตัวเปล่าบอกว่าจะแต่งงานเท่านั้น ก็จะมีแพ็กเก็จในราคาย่อมเยา 50,000 / 70,000 / 90,000 บาท ให้เลือกสรร แล้วแต่งบประมาณ ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องบริการ เพราะคุณไดน่าบอกไว้ว่า จัดเต็ม! 

KPI ของพนักงานคือการเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด

บริการครอบคลุมขนาดนี้ แน่นอนว่าพนักงานก็ต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเช่นกัน

“เราจะมีการประชุมเพื่ออัปเดตงานอย่างสม่ำเสมอ และคอยเช็กว่าพนักงานชอบทำอะไรหรือไม่ชอบอะไร เพราะถ้าให้เขาทำสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่เราชอบ เขาก็ไม่อยากอยู่ คนทำงานไม่ได้ทำเพราะเงินอย่างเดียว ไม่มีความสุขเขาก็ไม่อยู่ แต่สิ่งที่จะเป็น KPI ซึ่งสิ่งนี้จะดีกับตัวเขาด้วย นั่นก็คือพวกเขาจะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด”

เมื่อเอ่ยถึงรูปแบบบริการที่เป็นออฟไลน์ไปแล้ว คุณไดน่าได้เล่าถึงการจัดการเรื่องออนไลน์ เช่น การตอบคอมเมนต์ในแฟนเพจ TOO FAST TO SLEEP ว่าเธอจะรู้เรื่องระบบหลังบ้าน และจะสอนพนักงานด้วยหลักที่ว่า “ใจเขาใจเรา” หากเกิดมีการตำหนิจากลูกค้า ก็จะสืบสาวราวเรื่องให้รู้แน่ชัด แล้วคุยกับพนักงาน และสอนกันด้วยความเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจ เพื่อไม่ให้พนักงานถอดใจในการทำงาน

นอกจากนี้คุณไดน่ายังได้เล่าถึงเรื่องราวดีๆ ที่ได้รับหลัง TOO FAST TO SLEEP กลับมาเปิดอีกครั้งว่า พื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำ บางคนที่เคยมานั่งอ่านหนังสือที่นี่มีความผูกพันกันมา ก็กลายมาเป็นพนักงานที่นี่เพื่อที่จะโตไปด้วยกัน ซึ่งเธอและพนักงานต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ และเป็นเพื่อนที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กัน

เรียกว่าการเริ่มต้นภาคต่อของ TOO FAST TO SLEEP สาขาใหม่ Charn The Avenue แจ้งวัฒนะ เป็นเสมือนจุดรวมพลคนทำงานที่ Work hard Play hard ที่ครบวงจรสุดๆ

ทั้งนี้ในส่วนของแผนการตลาด คุณไดน่ากล่าวว่า TOO FAST TO SLEEP สาขา Charn The Avenue แจ้งวัฒนะ จะเป็นสาขาต้นแบบที่รวมทุกบริการมาไว้ในที่เดียว และในช่วงเวลานี้ยังไม่มีการทำการตลาดมากเท่าไหร่ แต่จะปรับระบบกับสองสาขาเดิมที่มีอยู่ ก็คือ สยาม และ มศว โดยจะต้องนำข้อมูลไปวิเคราะห์อย่างละเอียดเสียก่อน

สำหรับ TOO FAST TO SLEEP แหล่งมั่วสุมทางปัญญาที่อยู่คู่กับวัยเรียน จนกระทั่งตอนนี้มีภาคต่อเพื่อวัยทำงานบ้างแล้ว แน่นอนว่าการที่แบรนด์อยู่มานานได้ขนาดนี้ ต้องเกิด Brand Love อย่างแน่นอน ซึ่งในเรื่องนี้ คุณไดน่าให้มุมมองว่า

“การมี Communication กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องสามารถทำให้เกิด Brand Love ได้ค่ะ ให้เขาเห็นเราในทุกมิติ ไม่ว่าจะหน้าบ้านหรือหลังบ้าน ให้เห็นความน่ารักแม้กระทั่งแม่บ้าน คนเปิดน้ำ การขอบคุณลูกค้า น่ารักกับทุกคน เช่น ถ้าเราเห็นลูกค้าคนไหนทำงานเหนื่อย เราก็เดินเอาลูกอมไปวางให้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ เป็นความใส่ใจที่เรามอบให้อย่างจริงใจ”

ถ้าภาคแรกของ TOO FAST TO SLEEP คือแหล่งมั่วสุมทางปัญญา ภาคต่อของ TOO FAST TO SLEEP จะขยับขึ้นมาเป็นแหล่งมั่วสุมทางโอกาส อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมความสุข สนุกกับความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ก็ไม่ผิดนัก