SHARE

คัดลอกแล้ว

“ตอนที่โรคส่งผลกระทบแค่กับประเทศกำลังพัฒนา เห็นได้ชัดว่านั่นไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน แต่มันจะฉุกเฉินก็ต่อเมื่อไปกระทบต่อประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น” เสียงวิจารณ์จากนักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาดังก้องขึ้น ในขณะที่คณะกรรมการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) มีนัดประชุมเพื่อตัดสินใจว่าจะประกาศให้ ‘โรคฝีดาษลิง’ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศหรือไม่ในวันนี้  (23 มิ.ย.) 

การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อการระบาดของโรคฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกา ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทะลุ 3,000 รายในมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกแล้วขณะนี้

นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลกออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า องค์การอนามัยโลกกำลังพิจารณาเพื่อหาทางรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคฝีดาษลิงเนื่องจากมีความกังวลจากบทเรียนการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเมื่อต้นปี 2563 มาแล้ว

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้มีการตัดสินใจว่าจะพิจารณาประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เพื่อให้มีการเตรียมการรับมือกับการระบาดในอนาคต แม้ว่าโรคฝีดาษลิงจะแพร่ระบาดได้ยากกว่าโรคโควิด-19 ทั้งยังมีวัคซีนและยารักษาอยู่พร้อมแล้วซึ่งแตกต่างจากในช่วงที่โควิด-19 อุบัติขึ้น แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์เอ็มมานูเอล นาคูเน รักษาการผู้อำนวยการของสถาบันปาสเตอร์ในกรุงบังกี เมืองหลวงของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อความเคลื่อนไหวขององค์การอนามัยโลกว่าช้าเกินไป เนื่องจากโรคฝีดาษลิงเป็นวิกฤตด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกามานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการใส่ใจจากหน่วยงานระดับโลกอย่างแท้จริง โดยคำพูดดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก อาห์เหม็ด อ็อกเวลล์ อูมา รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา ซึ่งออกมาระบุว่า จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิงในทวีปแอฟริกาอยู่ในระดับฉุกเฉินแล้ว 

แม้กระนั้น ศาสตราจารย์นาคูเนยังคงยอมรับว่า การประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินนั้นถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญ “หากมีเจตจำนงทางการเมืองเพื่อแบ่งปันวิธีการตอบโต้ระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้แต่ละประเทศสามารถใช้ประโยชน์พร้อมกันได้”

การวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิทยาศาสตร์ในทวีปแอฟริกาครั้งนี้ ได้ถูกตั้งข้อสังเกตุอย่างน่าสนใจจาก แคลร์ เวนแฮม ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งลอนดอน ซึ่งมองว่า องค์การอนามัยโลกตกอยู่ในสถานะที่เริ่มจะสั่นคลอนมาตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 และในครั้งนี้หากมีการประกาศภาวะฉุกเฉินโรคฝีดาษลิง แต่ไม่สามารถทำให้ประเทศต่างๆ ดำเนินการตามได้ก็อาจจะยิ่งเป็นการทำลายบทบาทของหน่วยงานควบคุมโลกระดับโรคให้เลวร้ายลงไปอีก “พวกเขาจะถูกสาปแช่งหากพวกเขาตัดสินใจทำอะไร และก็ต้องถูกสาปแช่งอยู่ดีถ้าไม่ทำอะไรเลย”  

ทั้งนี้ การพิจารณาประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่มองว่ามีความเหมาะสมในทางเทคนิค เนื่องจากสถานการณ์การระบาดในขณะนี้เกิดขึ้นอย่างกะหันทันและผิดปกติในระดับโลกซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากนานาชาติ

เครือข่ายสุขภาพโลก (WHN) ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยระบุว่าจุดประสงค์สำคัญของการประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ก็เพื่อให้บรรลุความพยายามร่วมกันเพื่อป้องกันอันตรายในวงกว้าง

“ไม่มีเหตุผลสมควรที่จะรอให้การระบาดเพิ่มขึ้นไปอีก ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะต้องเริ่มดำเนินการในทันที เพื่อให้เราสามารถควบคุมการระบาดได้โดยใช่ความพยายามน้อยที่สุด และป้องกันไม่ให้ผลที่ตามมาแย่ลงไปอีก การดำเนินการที่จำเป็นที่สุดในขณะนี้ก็คือการสื่อสารอย่างชัดเจนไปยังสาธารณะให้มีการรับทราบข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับอาการ วิธีการทดสอบการติดเชื้อ และการกักกันติดตามผู้มีความเสี่ยงที่มีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งหากมีการดำเนินการในส่วนใดล่าช้าออกไปอีก ก็จะยิ่งทำให้เราต้องใช้ความพยายามมากขึ้น และอาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ตามมาที่รุนแรงขึ้นได้” ข้อความในแถลงการณ์ระบุ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า