จับแล้ว 3 พระสงฆ์ยืนกดดันให้โยมใส่บาตร พบเป็นต่างด้าว

จากกรณีที่ นายภราดร อยู่เย็น ครู ร.ร.ชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ ได้โพสต์ภาพพระสงฆ์ 3 รูป ยืนบิณฑบาตอยู่บริเวณหน้าบ้าน ทั้งที่เป็นเวลาประมาณ 10.00 น. พร้อมข้อความว่า “ใครโดนแบบนี้บ้างครับ ถึงเวลาจะมีพระมายืนรอหน้าบ้าน อาทิตย์ละบ่อยๆครั้ง ถ้าไม่ให้เงินก็จะยืนกดดันรอแบบนี้นาน ๆ บางทีก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ถ้าเราไม่ให้เงิน” ทั้งนี้ มีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และเกรงว่าจะเป็นพระปลอม ขณะที่บางคนแชร์ประสบการณ์ว่าเคยเจอลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว

วันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านใน ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว โดย นายภราดร เล่าว่า เมื่อเร็วๆ นี้จะมีพระจำนวน 3 รูปก็มี 1 รูปก็มี พากันมายืนเรียงแถวอยู่หน้าบ้านของตนเพื่อขอให้ตนและครอบครัวใส่บาตร ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกใจเนื่องจากว่า เป็นเวลาประมาณ 10.00 น. ตอนแรกตนก็ใส่บาตร ต่อมาก็มีพระมารอรับบิณฑบาตลักษณะเดียวกันนี้อีก โดยเมื่อเห็นว่าตนไม่ออกมาก็จะส่งเสียงสัญญาณเตือน เช่น กระแอมไอ เพื่อให้รู้ว่ามีพระมารอ

วันที่ตนไม่ได้เตรียมอะไรไว้ใส่บาตร แต่พระก็ยังไม่ยอมไป จึงได้นำเอาเงินมาใส่บาตรให้ และได้ถ่ายรูปไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพราะไม่เคยเห็นพระที่มีลักษณะกดดันให้ใส่บาตรแบบนี้ และเกรงคนในบ้านจะเป็นอันตรายอาจจะโดนพระทำร้ายได้ เพราะว่าพระแต่ละรูปที่มาบิณฑบาตหน้าตาไม่น่าไว้วางใจ และจะพากันวนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมากดดัน

ด้านนางเอมอร รัตนวงษ์ อายุ 61 ปี ซึ่งอยู่บ้านซอยใกล้กันกล่าวว่า ตนก็เคยถูกพระกลุ่มนี้มากดดันให้ใส่บาตรเหมือนกัน โดยตนจะนำเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่บาตรให้ แต่ว่าพระออกอาการไม่พอใจและให้ตนใส่บาตรเป็นเงินแทน จึงได้ใส่บาตรไปรูปละ 20 บาท ซึ่งภาษาที่พระพูดกันไม่ใช่ภาษาไทย แต่ว่าเป็นภาษาเขมร ตนจึงมั่นใจว่าพระทั้งหมดไม่ใช่พระจริง แต่ก็ถือว่าตนตักบาตรให้ผ้าเหลือง ทำบุญกันไป

ขณะที่ เพจ สถานีตำรวจภูธรกันทรารมย์ ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้รายงานกรณีดังกล่าวว่า พันตำรวจเอกพิษณุ สิทธิฑูรย์ ผู้กำกับการกันทรารมย์ ได้มอบหมายให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดตรวจสอบในพื้นที่ ต่อมา ร้อยตำรวจเอก ปรีดา กุลศิโรรัตน์ นายร้อยตำรวจเวรจราจร แจ้งว่าขณะออกตรวจ พบพระสงฆ์ 3 รูป เดินรับบิณฑบาตอยู่ในเขตเทศบาลอำเภอกันทรารมย์ จึงได้ตรวจสอบปรากฎว่าเป็นพระสงฆ์ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ตรวจสอบใบอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรแล้วไม่มีแต่อย่างใด จึงนำตัวส่งสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อผลักดันกลับประเทศต่อไป