เปิดอาณาจักร ‘มอนท์เอซัวร์’ มิกซ์ยูสสุดหรูบนหาดกมลา เจ้าของพื้นที่ 454 ไร่ใน ‘ภูเก็ต’

‘ภูเก็ต’ ดินแดนไข่มุกแห่งอันดามันที่ตอนนี้เรียกได้ว่ายกระดับสู่การเป็น ‘ไข่มุกทองคำ’ ไปแล้วก็ว่าได้ หลังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์หรูผุดขึ้นมากมาย เพื่อตอบรับความต้องการลงทุนของเศรษฐีต่างชาติจากทุกมุมโลก

หนึ่งในโครงการหรูที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามในตลาดอสังหาหรูบนภูเก็ต คือ มอนท์เอซัวร์ (MontAzure) โครงการมิกซ์ยูสระดับซูเปอร์ไฮเอนด์บนชายหาดกมลา ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตรนักลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ The Narai Group (จากประเทศไทย), ARCH Capital (จากฮ่องกง) และ Philean Capital (จากสิงคโปร์) ในเครือ Pontiac Land Group

โดยมอนท์เอซัวร์เป็นเจ้าของพื้นที่ทำเลที่ดีเยี่ยมบริเวณหาดกมลากว่า 454 ไร่ ครอบคลุมตั้งแต่เชิงเขาไปจนถึงพื้นที่ริมหาด ซึ่งเป็นพื้นที่ติดหาดทั้งหมด 250 เมตร (จากความยาวหาดกมลา 2.5 กิโลเมตร)

โครงการระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ภายในอาณาจักริกซ์ยูสของมอนท์เอซัวร์นั้น ประกอบไปด้วย

• โรงแรมระดับ 5 ดาวอย่าง อินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท (เป็นส่วนที่มอนท์เอซัวร์เปิดให้พันธมิตรเข้ามาลงทุน)
• เรสซิเดนซ์หรู Twinpalms Residences MontAzure ที่มอนท์เอซัวร์พัฒนาเอง
• คอนโดมิเนียยมระดับลักชูรี
• วิลลาหรู
• คาเฟ่ เดล มาร์ บีชคลับระดับเวิลด์คลาส
• ร้านอาหารมิชลินสตาร์
• ชิมเมอร์ บีช เลาจน์
• ร้านอาหาร 333 at the Beach

‘เศรษฐพล บุตรโท’ กรรมการบริหารมอนท์เอซัวร์ หลังจากมอนท์เอซัวร์เริ่มพัฒนาบนที่ดินผืนนี้มาตั้งแต่ราว 10 ปีที่แล้ว แนวทางการพัฒนาธุรกิจของเราสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของการท่องเที่ยวและตลาดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของภูเก็ต

“เรายังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของการสร้างประสบการณ์และพัฒนาโครงการระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ริมชายหาดที่ยากจะหาใครเทียบ และมอนท์เอซัวร์ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโครงการมิกซ์ยูสสุดหรูที่สมบูรณ์แบบ โดยเรายังเดินหน้าสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพในอาณาจักรมอนท์เอซัวร์แห่งนี้ต่อไป”

[ เพนท์เฮ้าส์ห้องสุดท้ายใน Twinpalms Residences ]

หากมาดูที่โครงการที่มอนท์เอซัวร์พัฒนาเองอย่าง Twinpalms Residences MontAzure ซึ่งเป็นโครงการรีสอร์ตและที่พักอาศัย ซึ่งประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 และ 2 ห้องนอน รวม 73 ยูนิต ราคาห้องวิวทะเลเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000 บาท/ตารางเมตร ไม่เห็นวิวทะเลเฉลี่ย 180,000-200,000 บาท/ตารางเมตร และนับจากวันที่เปิดขายครั้งแรกในปี 2016 ราคาเรสซิเดนซ์แห่งนี้ก็พุ่งขึ้น 20-25% แล้ว

โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติจนสามารถปิดการขายได้เกือบ 100% เหลือเพียง 1 ยูนิต ซึ่งเป็นเพนท์เฮาส์ขนาด 200 ตารางเมตร พร้อมสวนพักผ่อนและสระว่ายน้ำส่วนตัว

[ MGallery Residences MontAzure คอนโดระดับลักชูรี ]

อีกหนึ่งโครงการหรูในมอนท์เอซัวร์คือ MGallery Residences MontAzure คอนโดฯ หรูมูลค่ากว่า 2.2 พันล้านบาท บนพื้นที่กว่า 11 ไร่ ซึ่งกลุ่ม Accor ได้ประกาศการปรับแบรนด์ MGallery จากระดับพรีเมียม ขึ้นเป็นระดับละกชูรีอย่างเป็นทางการ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อห้องชุดในโครงการ MGallery Residences MontAzure

สำหรับ MGallery Residences MontAzure มาพร้อมกับมาตรฐานการดำเนินงานในระดับโลก และการดูแลรักษาโครงการในระดับห้าดาว โดยลูกบ้านจะได้รับบริการ Care Services ตามมาตรฐานของ MGallery รวมทั้งทางเลือกรับบริการ Concierge เพื่อประสบการณ์ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย

ทั้งนี้ เจ้าของห้องชุดยังสามารถเข้าร่วมโปรแกรมเอ็กซ์คลูซีฟ Accor Ownership Benefit ในสถานะ VVIP รับสิทธิพิเศษได้ทั่วโลกในฐานะ Diamond Level ของ LeClub AccorHotels ซึ่งจะเปิดประตูสู่โลกแห่งเอกสิทธิ์สุดพิเศษมากมาย

ปัจจุบันโครงการนี้ขายได้แล้ว 50% มีลูกค้าทั้งชาวรัสเซีย ยุโรป ฮ่องกง สิงคโปร์ และไทย ราคาอยู่ที่ 180,000-200,000 บาท/ตารางเมตร คาดว่าปลายปีหน้ายอดขายน่าจะแตะ 80% โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีหน้า

[ วิสัยทัศน์ของมอนท์เอซัวร์สำหรับตลาดภูเก็ต ]

มอนท์เอซัวร์บอกว่า วันนี้ ภูเก็ตกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอสังหาฯ ชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนชาวรัสเซียและชาวยุโรป

ในช่วงต้นปี 2023 ที่ดินชายทะเลในภูเก็ตราคาพุ่งขึ้นถึงไร่ละ 70 ล้านบาท ในขณะที่พื้นที่อื่นๆ มีมูลค่าราว 30-40 ล้านบาท ซึ่งทำเลทองที่ได้รับการพัฒนาและมีโรงแรมและคอนโดขึ้นหนาแน่น ได้แก่ หาดป่าตอง กมลา กะตะ และกะรน

ปัจจุบัน ตลาดอสังหาระดับหรูของภูเก็ตดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติที่มองหาบ้านหลังที่สอง อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน และโอกาสในการลงทุน ภาคการท่องเที่ยวพลิกฟื้นเติบโตอีกครั้งหลังจากช่วงโควิด

และสืบเนื่องจากกลยุทธ์การวางเป้าหมายการท่องเที่ยวในกลุ่มจีน รัสเซีย อินเดีย และอื่นๆ รวมถึงแผนเตรียมการให้ฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียก็ช่วยกระตุ้นการเดินทางได้มากเช่นกัน

นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น ๆ เช่น สถานการณ์ทางการเมืองทำให้ชาวรัสเซียจำนวนมากหันมาลงทุนอสังหาฯ ในไทยเพื่อความปลอดภัย รวมถึงยังหลงเสน่ห์ของภูมิอากาศและปัจจัยค่าครองชีพที่คุ้มค่า การกลับมาเปิดประเทศหลังภาวะการแพร่ระบาดผ่านพ้นทำให้มีนักลงทุนหลั่งไหลมาสู่ไทยมากขึ้น

อย่างไรก็ดี สำหรับภูเก็ต ชาวรัสเซียเริ่มมีมูลค่าการซื้อสูงขึ้นมากเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มเซกเมนต์วิลลาระดับหรูซึ่งมียอดขายปี 2022 สูงสุดในรอบ 5 ปี และเมื่อพิจารณาในช่วงต้นปี 2023 นักลงทุนชาวรัสเซียกับสหรัฐฯ มีกำลังซื้อมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และที่น่าสังเกตคือการมีชาวรัสเซียเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ส่งผลให้ยอดขายวิลลาหรูในภูเก็ตเพิ่มขึ้นถึง 338% โดยครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าชาวรัสเซีย

ดังนั้น แม้ว่าครั้งหนึ่งชาวจีนจะเคยเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของภูเก็ต แต่ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกลับมีจำนวนมากกว่า และมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ

[ เตรียมเปิดวิลลาหรูรับดีมานด์เศรษฐีต่างชาติ ]

ล่าสุด มอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต ได้จับมือกับพันธมิตรรายใหญ่ของเกาะภูเก็ต บริษัท โบทานิก้า ลักเซอรี่ ภูเก็ต จำกัด ในการร่วมพัฒนาโครงการวิลล่าสุดหรู จำนวน 36 ยูนิต เสนอขายในราคา 49-170 ล้านบาทโดยประมาณ รวมมูลค่าโครงการกว่า 2.6 พันล้านบาท

โดยเตรียมเปิดห้องตัวอย่าง Show Villa ให้ผู้สนใจเข้าชมในช่วงปี 2024 และคาดว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่กำลังแสวงหาบ้านหลังที่สอง บ้านพักตากอากาศ หรือโอกาสในการลงทุนที่คุ้มค่าในภูเก็ต

‘อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ’ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักเซอรี่ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เราเคยพัฒนาโครงการโบทานิก้าในพื้นที่เชิงทะเล ซึ่งได้รับการตอบรับดี มีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติถึง 95%

“สำหรับการร่วมมือกับมอนท์เอซัวร์ เนื่องจากเห็นศักยภาพของที่ดินบนเนินเขาและมีวิวทะเล อยู่ห่างจากชายหาดกมลาเพียง 400 เมตร ทั้งยังอยู่ท่ามกลางแบรนด์อสังหาหรูต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่าทำเลนี้น่าสนใจอยู่แล้วทำให้การพัฒนาของเราจะมุ่งไปที่งานดีไซน์ให้โดดเด่นแปลกใหม่ แบบที่ยังเข้ากับมอนท์เอซัวร์”

โดยโครงการของโบทานิก้านั้นแบ่งออกเป็นยูนิดขนาดใหญ่ 800-1,000 ตารางเมตร และขนาดเล็ก 550 ตารางเมตร และคาดว่าบ้านตัวอย่างจะแล้วเสร็จในอีก 1 ปี ทั้งโครงการจะขายหมดภายใน 2 ปี และใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จในเวลาไม่เกิน 3 ปี