ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มธุรกิจขนมไหว้พระจันทร์ปี 2562 จะเติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้ว เป็นมูลค่าถึง 950 ล้านบาท เนื่องจากวัตถุดับที่เป็นรสชาติดั้งเดิม เช่น ทุเรียน ราคาสูงขึ้น
วันไหว้พระจันทร์ 2562 ตรงกับวันที่ 13 กันยายน วันนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้รายงานว่า จากผลสำรวจการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ พบว่า ในปี 2562 คนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจซื้อขนมไหว้พระจันทร์ โดยมีสัดส่วนการซื้อปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 61.4% จาก 59.6% ในปี 2561
โดยส่วนใหญ่เป็นการซื้อไปรับประทาน มีสัดส่วนอยู่ที่ 47.1% (ซึ่งกลุ่มนี้ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี) รองลงมา คือกลุ่มที่ซื้อไปไหว้มีสัดส่วน 26.6% ซื้อไปฝากญาติมิตร 22.3% และซื้อให้กลุ่มลูกค้าองค์กร 4.0%
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจะซื้อขนมไหว้พระจันทร์ในจำนวนที่ลดลง โดยอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 7.2 ชิ้นในปีนี้ จาก 7.5 ชิ้นในปี 2561 ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยใกล้เคียงกับปีก่อนโดยอยู่ที่ 992 บาทต่อคน เทียบกับ 997 บาทต่อคนในปีก่อน ซึ่งในกลุ่มที่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ลดลง ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะราคาที่แพงขึ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 29.5% สอดคล้องกับที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้เก็บรวบรวมข้อมูลพบว่า ขนมไหว้พระจันทร์ในตลาดมีราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 3-5% นอกจากนี้ การซื้อน้อยชิ้นลง ผู้ตอบแบบสอบถามยังให้เหตุผลว่า เป็นผลมาจากการที่มีภาระรายจ่ายเพิ่มขึ้น 27.9% และการมีรายได้ที่ลดลง 8.2%
จากผลการสำรวจประกอบกับสภาพบรรยากาศในช่วงเทศกาลโดยรวม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงประเมินว่า มูลค่าตลาดขนมไหว้พระจันทร์ปี 2562 จะอยู่ที่ประมาณ 950 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยด้านราคาที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ตามราคาวัตถุดิบที่เป็นรสชาติดั้งเดิมที่เพิ่มขึ้น อาทิ ทุเรียน รวมถึงการออกรสชาติขนมไหว้พระจันทร์ใหม่ ที่มักตั้งราคาสูงกว่ารสชาติดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เน้นคุณค่าด้วย