สัมภาษณ์ มอร์ วสุพล เกรียงประภากิจ กับการทำเพลงที่ช่วยให้ได้อยู่กับปัจจุบันเพลินๆ

มอร์ วสุพล เกรียงประภากิจ อดีตสมาชิกวง Ten to Twelve อินดี้ป็อบมาแรงในยุค 2010 และภาพจำในบทบาทผู้กำกับโฆษณา ที่เขามองว่าเป็นการทำงานที่ต้องอยู่กับอนาคตตลอดเวลา ในวันนี้เขากลับมาทำเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวในชื่อ Morvasu ที่ได้กลับมาอยู่กับปัจจุบันเพลินๆ ในซิงเกิลแรก Melbourne ซึ่งประสบความสำเร็จกับกระแสตอบรับจากแฟนเพลง ส่งให้เพลงนี้ชาร์ตอันดับ 1 คลื่นวิทยุและติดอันดับ 1 เพลงฮิตประเทศไทยบนสตรีมมิ่ง Spotify นานกว่า 1 เดือน และซิงเกิลใหม่ของเขาก็กำลังตามมา อย่างเพลง เทาเทา ที่เขาได้ซ่อนความครีเอทีฟในผลงานเพลงอยู่เต็มไปหมด เฉกเช่นกับงานโฆษณา

“90 เปอร์เซ็นต์ของการเขียนเพลง คือการเอาหัวโหม่งโต๊ะไปเรื่อยๆครับ อันนี้เปรียบเปรยครับ มันก็คือการคิดไม่ออกครับ แต่ว่าเราก็ต้องทำไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะออกมาครับ ซึ่งมันจะออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ครับ”

ในยุคที่โด่งดังของ Ten to Twelve ที่โซเชียลมีเดียไม่ได้มีบทบาทมากนัก

“สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มีโซเชียลน่าจะเป็นวิทยุมั้งครับ พวก Fat Radio อะไรอย่างนี้ครับ เหมือนทุกคนก็จะฟัง Fat  Radio กัน เพลงเราก็จะไปเปิดใน Fat Radio อย่างนี้ครับ แล้วก็สมัยก่อนมันน่าจะเป็น ความเก๋แบบหนึ่งมั้งครับ ในการที่เอาเพลงที่เราชอบให้เพื่อนฟัง ทั้งๆที่มันไม่ได้ถูกโปรโมทแบบแมสมาก ประมาณนั้นมั้งครับ แต่จริงๆ วัฒนธรรมมันคล้ายเดิมมาก ก็จะไปเจอกันตามงานคอนเสิร์ต ตอนไปขายซีดีครับ”

 ทางเลือกของการฟังเพลง ที่ไม่ใช่แค่เพลงทางเลือก   

“ผมว่าตอนนี้ทางเลือกของคนเรามันเยอะขึ้นมากๆ เราสามารถฟังเพลงที่ไหนก็ได้ในโลกนี้ โดยที่ไม่ต้องมีซีดีอยู่ในมือครับ  เรากดเข้าไปในยูทูบก็ได้ เรากดเข้าไปในสตรีมมิ่งต่างๆ  คนตัดสินว่าเพลงนี้ดีหรือไม่ดีก็คือคนฟัง สื่อมีผลน้อยลงเยอะเหมือนกันครับ คนเลือกไปฟังเพลงที่ชอบได้เลย ไม่ใช่ว่าฉันจะเลือกฟังเพลงนี้จาก 20 เพลง อย่างนี้ครับ”

การกลับมาทำเพลง ในแบบ Morvasu

“จริงๆ แล้วมันก็มาจาก Ten Two Twelve ที่ผมอยู่ เขาก็พักวงครับ ก็เลยคิดว่าเรายังอยากทำเพลงอยู่ แล้วก็อยากทำเพลงของยุค 2020 อ่ะครับ อยากทำเพลงป๊อปยุค 2020 เพราะผมชอบ ก็เลยลองหาวิธีทำดูครับ ก็ต้องลองศึกษาใหม่ เพราะเราไม่ได้โตมากับเพลงยุคนี้ แต่เราอยากทำเพลงยุคนี้ ก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง
แทนที่เราจะฟังเพลงในยุคที่เราโตขึ้นมา ผมก็หัดฟังเพลงที่ชอบ แล้วก็แบบเราก็ต้องแบบ ทำตัวเหมือนเราวัยรุ่นอ่ะครับ ฟังเพลงที่เราชอบไปเรื่อยๆ ศึกษาตามไปเรื่อยๆ วงที่ชอบก็อย่างเช่น Rex Orange County, Troye Sivan หรือว่าเป็น Billie Eilish ผมชอบมาก ส่วนใหญ่น้องเขาก็เด็กกว่าเรา 10 ปี (หัวเราะ)”

ความสำเร็จของเพลง Melbourne

“เพลงนี้เขียนขึ้นมาตอนที่ไป Road Trip ที่เมลเบิร์น จริงๆผมทำเพลงนี้ขึ้นมาเป็นเมโลดี้ครับ พอไปที่เมลเบิร์นแล้วผมรู้สึกว่า ค่อยๆ ขับรถไปเรื่อยๆ ตามหาดอย่างนี้ครับ แล้วก็เหมือนแบบนอนที่นี่ อีกคืนหนึ่งนอนที่นั่น ไปเรียนเซิร์ฟอย่างนี้ครับ มันเหมือนเป็นครั้งแรกที่เราได้อยู่กับปัจจุบันจริงๆในรอบหลายไปครับ ใช้ชีวิตเพลินๆช้าไป เออ มันมีความสุขจังเลย การอยู่กับปัจจุบันช้าๆแบบนี้ ครับ

ตอนแรกเราแค่คาดหวังให้มีคนชอบเพลงเราบ้างก็พอแล้ว เหมือนการที่น้องๆเขาส่งมา เราอันดับหนึ่งใน Spotify นะ แปลว่าคนทั้งประเทศในวันนี้เขาฟังเพลงเราเยอะที่สุด ซึ่งผมก็แบบ ไม่เชื่อ จริงๆแล้วผมไม่เชื่อ เป็นวัน จนผมต้องไปหาวิธี Fact Check ให้เจอว่ามันเป็นเรื่องจริงเหรอ เพลงที่เราทำจะมีคนฟังจากสตรีมมิ่ง อันดับต้นๆ อันดับหนึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ผมพยายามจะหาอะไรวิเคราะห์ มันก็ไม่สามารถจับอะไรเป็นรูปธรรมได้ครับ ทุกอย่างมันคงรวมกัน แค่คิดว่าโชคดี”

การทำเพลงที่ได้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน

“จริงๆ งานทุกอย่างมันอยู่กับอนาคต พรุ่งนี้มันโอเคไหม มันจะขายลูกค้าผ่านไหม งานนี้ออกไป คนมันจะชอบไหม มันแค่เป็นการคาดหวังอยู่กับอนาคตตลอดเวลา แล้วพอเราไม่ค่อยได้อยู่กับตรงนี้ สมมติว่าเราทำงานมันคือเรื่องอนาคตแล้ว ไม่ใช่มันผิดนะครับ เราก็ต้องทำงานกัน แต่แค่เหมือนว่า Melbourne ก็คือการบันทึกช่วงเวลาที่เรามีความสุขและอยู่กับปัจจุบันเพลินๆ  ทำเพลงมันก็เหมือนกับกลับมาอยู่กับปัจจุบันเหมือนกัน แต่มันก็เป็นเรื่องอนาคตเหมือนกัน (หัวเราะ) เพราะฉะนั้น ตอนนั้นน่าจะอยู่กับปัจจุบันกว่า ตอนทำเพลงก็อยู่กับอนาคตเหมือนกัน อ้าว งง แล้วครับ (หัวเราะ)”

ไอเดียที่ต้องใช้กับงานโฆษณาและงานเพลง

“ไอเดียคืออะไร แค่นั้นเลยครับ  เหมือนมันมีไอเดียครับ แล้วเราก็ทำสิ่งที่มัน สิ่งที่เราเอามาเติมมันคือสิ่งที่ตอบไอเดีย ถ้ามันไม่ตอบไอเดียว เราก็ทิ้งแค่นี้เลยครับ มันทำให้การหยิบสิ่งต่างๆมาประกอบไอดีนี้มันไม่วุ่นวายครับ จริงๆใช้กับงานโฆษณาเป็นหลัก เพลงจะมีความอะลุ่มอล่วยมากกว่า เพลงบางทีรู้สึกว่า มันไม่ได้ตอบไอเดียร้อยเปอร์เซ็นต์นะ แต่ว่าผมรู้สึกในฐานะมนุษย์ เพลงมันมีความรู้สึกมากกว่า”

เอื้อเฟื้อสถานที่ SATI Handcraft Coffee