SHARE

คัดลอกแล้ว

การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เป็นกลไกที่ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งมีทั้ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี, การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ
.
ในยุคของการเมืองร่วมสมัย การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในเวลาต่อมา มี 2 ครั้งสำคัญ คือ ยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย และรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา

ชวน หลีกภัย

ปี 2538 ฝ่ายค้านนำโดยนายบรรหาร ศิลปอาชา กับคณะ ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ชุดนายชวน หลีกภัย ทั้งคณะ กำหนดระหว่าง 17-18 พ.ค. 2538 ซึ่งต่อเนื่องมาจากการยื่นอภิปรายอภิปรายรัฐมนตรี 2 คน ในช่วงปลายปี 2537 คือ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รมว.เกษตร และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมช.เกษตร แต่ทั้ง 2 คนชิงลาออกไปก่อน

.

ปัญหาแกนกลางมาจากเรื่องการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของนายสุเทพ โดยถูกโจมตีว่ามีการจัดสรรให้กับคนรวย
.
กลุ่ม 16 ที่นำโดยนายเนวิน ชิดชอบ และนายสุชาติ ตันเจริญ อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายชวน จากกรณีดังกล่าว จนทำให้ พรรคพลังธรรมที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเรียกประชุมด่วนและมีมติว่าจะงดออกเสียงให้รัฐบาล
.
ที่สุดแล้วก่อนการลงมติในวันที่ 19 พ.ค. 2538 นายชวน ก็ตัดสินใจยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ จึงไม่มีการลงมติ แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าพลังในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามมา

หลังการเลือกตั้ง 2 ก.ค. 2538 นายบรรหาร ศิลปอาชา พลิกกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และสมาชิกกลุ่ม 16 ที่เป็นขุนพลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่างได้รับการตอบแทน เช่น นายสุชาติ ตันเจริญ เป็น รมช.มหาดไทย, นายเนวิน เป็น รมช.คลัง, นายสนธยา คุณปลื้ม รมช.อุตสาหกรรม
.
สถานการณ์พลิกกลับข้างเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายชวน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลจํานวน 10 คน ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ค. 2539 โดยนำข้อมูลเรื่องการที่คนในกลุ่ม 16 ไปเกี่ยวพันกับ นายราเกซ สักเสนา ที่ปรึกษาของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ หรือบีบีซี และมีการกว้านซื้อที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไปเป็นหลักประกันกู้เงินจากธนาคารในวงเงินมหาศาล
.
โดยผลที่ตามมาคือ ผู้บริหารธนาคารถูกลงโทษ นายราเกซหลบหนีไปแคนาดา ส่วนนักการเมืองรอดคดี
.
การอภิปรายครั้งนั้น อภิปรายได้เพียง 7 จาก 10 คน ยังเหลือ นายบรรหาร,นายเนวิน และนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ ก็มีการปิดประชุมสภาก่อน ทำให้นายบรรหารถูกโจมตีว่าปิดสภาหนีการอภิปราย
.
ผลการลงมติพรรคพลังธรรม ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลงดออกเสียงไว้วางใจนายสุชาติ ตันเจริญ ทำให้ได้เสียงไว้วางใจน้อยที่สุด สร้างความไม่พอใจให้เกิดขึ้นในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล แต่สุดท้ายนายสุชาติ และนายเนวิน รวมทั้งรัฐมนตรีจากกลุ่ม 16 ต้องลาออก

ตัวนายบรรหารเอง มาถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพียงคนเดียว ระหว่าง 18-20 ก.ย. 2539 ซึ่งเป็นการอภิปรายฯ ครั้งที่ได้รับการบันทึกว่าหนักหนาสาหัสที่สุด โดยขุนพลพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีนายบรรหาร 13 ประเด็น นำข้อมูลตั้งแต่เรื่อง สัญชาตินายบรรหาร ที่กล่าวหาว่าไม่ใช่คนไทยเพราะเกิดในจีน (ซึ่งไม่จริง), เรื่องลอกวิทยานิพนธ์และการบริหารงาน
.
หลังการอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคความหวังใหม่ พรรคนำไทย และพรรคมวลชน ได้ต่อรองให้นายบรรหาร ลาออกใน 3 วัน แลกกับการลงมติไม่ไว้วางใจ
.
โดยพรรคความหวังใหม่นำจดหมายยื่นบังคับให้นายบรรหารประกาศลาออกโดยเร็วที่สุด ก่อนการลงมติไว้วางใจเพียง 15 นาที ซึ่งนายบรรหารยอมประกาศว่าจะลาออกใน 7 วัน แลกกับเสียงไว้วางใจ 207 ต่อ 180
.
แต่เมื่อถึงวันที่ 27 ก.ย. นายบรรหารก็ตัดสินใจยุบสภา ดัดหลังพรรคร่วมรัฐบาลที่มากดดันแบบไม่มีใครคาดคิด รวมอยู่ในตำแหน่งได้ 1 ปี 2 เดือน

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า