บอยค็อตมู่หลาน กระแสต่อต้าน “หลิวอี้เฟย” หลังออกความเห็นช่วง “ฮ่องกงประท้วง”

หลิวอี้เฟย นักแสดงอเมริกันเชื้อสายจีน ได้แสดงความคิดเห็นผ่าน weibo (微博) สื่อโซเชียลมีเดียของประเทศจีน โดยมีเนื้อหาใจความ สนับสนุนตำรวจฮ่องกง ถึงแม้ว่าตำรวจฮ่องกงได้ใช้กำลังพลเข้าปะทะเพื่อที่จะหยุดเหตุการณ์นี้ จนเกิดเหตุการณ์รุนแรงและบานปลายขึ้นอย่างน่าตกใจ รุนแรงขนาดพาให้หนึ่งในผู้ชุมนุมต้องตาบอด

หลังจากนั้นเกิดกระแส #boycottmulan เป็นเทรนด์ฮิต ในรอบหลายวันที่ผ่านมาในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเน้นไปที่ความเหมาะสมของตัวนักแสดงที่สวมบทเป็น มู่หลาน  ตัวละครที่สู้เพื่อปกป้องประเทศชาติแต่ตัวนักแสดงกลับสนับสนุนตำรวจฮ่องกงที่ใช้ความรุนแรง

คำถามคือ หลิวอี้เฟย เหมาะสมที่จะได้รับบท มู่หลาน จริงหรือไม่?

ภาพยนตร์เรื่อง Mulan ที่เธอได้รับบทนำนั้น เป็นตัวละครสาวที่ฉลาด อ่อนโยนและ พร้อมที่จะช่วยเหลือคนรอบข้างตลอด และยังเป็นสาวที่แข็งแกร่ง ปลอมตัวเป็นทหารไปสู้รบแทนคุณพ่อที่บาดเจ็บโดยที่  เธอก็รู้ว่า ถ้าถูกจับได้อาจจะถูกประหารชีวิต เป็นการกระทำที่เสี่ยงต่อตัวเองแต่ก็ทำเพื่อปกป้องประเทศชาติ

ธีมหลักของภาพยนตร์ มู่หลาน เป็นการต่อสู้ระหว่าง มู่หลาน และความเหลื่อมล้ำทางวัฒนธรรมที่จะเอียงไปฝั่งผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ ตลอดทั้งเรื่อง มู่หลาน ไม่สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง เนื่องจากมุมมองทางสังคมและวัฒนธรรมของประเทศจีน ในช่วงเวลานั้นเธอต้องต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ โดยการปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อที่จะสามารถปกป้องชีวิตคุณพ่อของตัวเองรวมไปถึงปกป้องประเทศ เธอถูกค้นพบว่าเป็นผู้หญิงหลังจากที่เธอได้ช่วยประเทศจีนเอาไว้จากการโจมตีจักรพรรดิฮาน เธอยังคงต้องต่อสู้กับตัวเองในอีกหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพละกำลังหรือจิตใจเพื่อที่จะบรรลุในสิ่งที่เธอต้องการ

ความกล้าหาญ คือการกล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม สิทธิในการออกความคิดเห็นของคนหนึ่งคน ได้ถูกเปิดกว้างอย่างมากในสังคมโลกปัจจุบัน การที่ หลิวอี้เฟย มีความคิดเห็นไม่ตรงกับคนส่วนใหญ่ของชาวฮ่องกง หรือมีมุมมองที่แตกต่างกับหลาย ๆ คนทั่วโลก ไม่ได้หมายความว่าเธอมีความผิดแต่อย่างใด แต่การเลือกเวลา สถานที่ และคำพูดที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องที่สมควรไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะยังมีภาพพจน์ขอตัวนักแสดง รวมไปถึงภาพยนตร์ที่ต้องรักษาไว้เช่นกัน