คนหันไปฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่ง Apple Music, Spotify, YouTube, JOOX กันหมดแล้ว เรียกได้ว่าสตรีมมิ่ง มาแทนที่การฟังเพลงแบบดั้งเดิมทั้งหมด
แต่ใช่ว่าการฟังเพลงผ่านซีดีจะหายไปเสียทีเดียว เพราะซีดีหรือแม้แต่แผ่นเสียงแบบเก่า ก็ยังมีเสน่ห์หลายๆ อย่างที่สตรีมมิ่งให้ไม่ได้
และในยุคโควิดที่คนเอ็นจอยกับความบันเทิงในบ้านมากขึ้น ก็ช่วยให้เทรนด์ซีดีและแผ่นเพลงกลับมาได้อีกครั้ง
[ ยอดขายซีดีกลับมาสูงในรอบ 17 ปี ]
มีข้อมูลจากสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา หรือ RIAA (The Recording Industry Association of America) พบว่า ยอดขายซีดีเพลงในปี 2021 เติบโตสูงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004
โดยยอดขายซีดีเติบโตขึ้นเป็น 584.2 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปี 2020 ส่วนแผ่นเสียงก็น่าสนใจ มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านดอลลาร์ โตขึ้นจากปี 2020 ที่มียอดขาย 643.9 ล้านดอลลาร์
ซึ่งถ้าเทียบความฮิตระหว่างแผ่นเสียงกับซีดีเพลง ช่วงหลังๆ สัก 2-3 ปีที่ผ่านมา แผ่นเสียงจะได้รับความนิยมมากกว่า ยอดขายแซงซีดีเพลง
ส่วนหนึ่งเพราะแผ่นเสียงเพราะมีคุณค่าทางใจที่จับต้องได้ จังหวะที่เราวางแผ่นเสียงบนเครื่องเล่นคือสิ่งที่คนฟังเพลงคิดถึงและโหยหา
ตัวแผ่นเสียงยังมีขนาดใหญ่และมีอาร์ตเวิร์คสวยงาม เหมาะที่จะเป็นของสะสม และที่สำคัญคือคุณภาพเสียงที่ต่างออกไปจากเพลงดิจิทัล
แต่ซีดีเพลงที่ซบเซาลงไป ก็เริ่มกลับมาฮิตใหม่ในรอบ 17 ปี แม้จะยังห่างไกลจากยุครุ่งเรืองในปี 2000 แต่ก็ยังถือว่าเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ และทำให้อยากรู้ว่าอะไรทำให้ซีดีกลับมาขายดีอีกครั้ง
[ ศิลปินดัง มีส่วนช่วยดันยอดขาย ]
หนึ่งในปัจจัยช่วยให้ซีดีขายดีก็คือตัวศิลปินนี่แหละ โดยเฉพาะศิลปินเบอร์ใหญ่ของโลกอย่าง Adele, Taylor Swift
MRC Data’s 2021 US Year-End Report เผยยอดขายเพลงของศิลปิน พบว่า “titled 30” อัลบั้มใหม่ของ Adele มียอดขายสูงสุดทั้งรูปแบบดิจิทัลและซีดี โดยในสหรัฐฯขายได้เกือบ 9 แสนแผ่น
ตามมาด้วยอันดับสอง คือ Fearless และ Red (Taylor’s Version) อัลบั้มใหม่ล่าสุดซึ่งเป็นการบันทึกเสียงใหม่ของ Taylor Swift
และยังมี BTS วงเคป็อปที่กลายเป็นวงระดับโลกไปแล้ว โดยอัลบั้มที่ติดอันดับขายดีติด top 10 (สหรัฐฯ) ในปี 2021 คือ Map Of The Soul: 7 และ Be
ส่วนในอังกฤษก็มองเห็นความนิยมในซีดีที่เพิ่มขึ้น ยอดขายในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 15% นำทัพโดย Adele, Ed Sheeran, Abba
หนึ่งในความเห็นจากเจ้าของร้านขายแผ่นเพลงบางแห่งบอกว่า ที่ซีดีขายดี เพราะในหลายๆ ครั้ง แผ่นเสียงของศิลปินใหม่ๆ ออกช้ากว่าซีดี แฟนเพลงที่ยังชื่นชอบการฟังเพลงแบบดั้งเดิมก็หันไปซื้อซีดีมากขึ้น
ในกลุ่มศิลปินเคป็อป ยังคงให้ความสำคัญกับการขายซีดีควบคู่ไปกับการขายแบบดิจิทัล ซึ่งมีส่วนช่วยดันยอดขายด้วย เพราะนอกจากแฟนคลับจะได้แผ่นซีดีแล้ว ยังได้ของอื่นๆ อย่างการ์ดรูปภาพ สมุดภาพไอดอล ซึ่งมีคุณค่าทางใจไม่แพ้แผ่นซีดีเลย
[ สตรีมมิ่งยังเป็นราชาของการฟังเพลง ]
แม้ยอดขายซีดี แผ่นเพลงเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า คนไม่ฟังเพลงสตรีมมิ่งแล้ว เพราะสตรีมมิ่งยังเป็นช่องทางหลักของการฟังเพลง
ข้อมูลจาก RIAA ชี้ว่า การฟังสตรีมมิ่งเติบโต 23% เป็น 9.5 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นเกือบสองในสามของรายได้ทั้งหมด ส่วนยอดดาวน์โหลดเพลงไฟล์ดิจิทัลก็ยังทำรายได้เยอะ แต่เริ่มเห็นการลดลง 12% เหลือ 587 ล้านดอลลาร์ ส่วนยอดขายอัลบั้มดิจิทัลลดลง 12% เหลือ 282 ล้านดอลลาร์ และยอดขายเพลงเดี่ยวลดลง 16% เหลือ 256 ล้านดอลลาร์
ยอดขายอัลบั้มซีดีและแผ่นเสียง ยังเป็นส่วนน้อยมากๆ (ไม่ถึง 11%) เมื่อเทียบกับการซื้อและสตรีมเพลงแบบดิจิทัล แต่เมื่อมัดรวมรายได้ทั้งซีดีและแผ่นเพลงรวมกัน ถือเป็นการเติบโตขึ้นครั้งแรกนับจากปี 1996 เลยทีเดียว
เทรนด์การฟังเพลงมุ่งสู่ดิจิทัลไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็น่าจับตามองว่าเทรนด์ซีดีและแผ่นเสียงจะกลับมาได้มากขนาดไหน เพราะถึงที่สุดแล้ว รายได้จากซีดีก็เป็นของค่ายเพลงและศิลปินเต็มๆ ไม่ถูกหักจากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
ที่มา : Axios, The Verge, NME, RIAA