กัมพูชาส่งสัญญาณกดดัน ‘มิน อ่อง หล่าย’ ต่อ ในฐานะประธานอาเซียนปีหน้า ย้ำเมียนมากำลังเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมืองที่ส่งผลต่อชาวเมียนมา ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องของชาวอาเซียน
วันที่ 29 ต.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างการเปิดเผยของนายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ต่อกรณีที่กัมพูชาจะรับไม้ต่อจากบรูไน ในฐานะประธานอาเซียนในปีหน้า
โดยในช่วงหนึ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชากล่าวถึงสถานการณ์ในเมียนมาว่า กำลังเข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง ก่อนจะย้ำว่าแม้อาเซียนจะยึดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิก แต่สถานการณ์ในเมียนมาส่งผลกระทบทางลบต่อภูมิภาค ไปจนถึงความน่าเชื่อถือของอาเซียน และที่สำคัญที่สุดคือส่งผลต่อประชาชนชาวเมียนมา ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพี่น้องของชาวอาเซียน
รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชายืนยันว่า กัมพูชาเป็นชาติที่สนับสนุนให้อาเซียนไม่เชิญ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำการรัฐประหารเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน และแม้ในตอนนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะบอกว่า อาเซียนจะคว่ำบาตรต่อไปอีกหรือไม่ แต่ทางการกัมพูชาย้ำว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเมียนมาเป็นหลัก
สำหรับสาเหตุที่อาเซียนตัดสินใจไม่เชิญพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนล่าสุด มีการยืนยันว่าเป็นเพราะอาเซียนต้องการตอบโต้การไม่ให้ความร่วมมือของเมียนมา ตามที่เคยได้ตกลงกันไว้กับอาเซียน โดยเฉพาะการไม่เปิดทางให้ผู้แทนพิเศษของอาเซียน ไปพูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทหาร รวมถึงนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา ที่กำลังถูกควบคุมตัวอยู่
นักวิเคราะห์ประเมินว่า การประชุมอาเซียนบางนัดหลังจากนี้ ผู้นำรัฐประหารเมียนมาก็อาจไม่ได้รับเชิญเช่นกัน โดยเฉพาะในการประชุมที่มีชาติตะวันตกเข้าร่วม เช่นการประชุมอาเซียน-สหภาพยุโรป แต่ที่ต้องจับตาคือการประชุมอาเซียน-จีน ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะร่วมประชุมด้วยว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย จะได้เข้าร่วมหรือไม่
ขณะที่เมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) สุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน กล่าวปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยช่วงหนึ่งยืนยันว่า เมียนมายังคงเป็นสมาชิกครอบครัวของอาเซียน และอาเซียนจะยังอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยเหลือเมียนมาผ่านกลไกที่เมียนมาตกลงกันไว้กับอาเซียน