ชาติตะวันตกเรียกร้องกองทัพเมียนมา เคารพหลักการประชาธิปไตย หลังมีกระแสรัฐประหาร

วันที่ 29 มกราคม 2564 เว็บไซต์อิระวดี สื่อภาษาอังกฤษในเมียนมารายงานความเคลื่อนไหวของสถานทูตชาติตะวันตกหลายชาติ เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนาดา และสหภาพยุโรป ที่ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องกองทัพเมียนมาเคารพหลักการประชาธิปไตย พร้อมหวังจะได้เห็นการประชุมรัฐสภาของเมียนมาเกิดขึ้นตามกำหนดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

เช่นเดียวกับนายอันโตนีโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ที่ออกมาแสดงความกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์การเมืองในเมียนมา พร้อมย้ำให้ทุกฝ่ายยึดหลักประชาธิปไตยและเคารพผลการเลือกตั้ง

แถลงการณ์ร่วมของหลายชาติตะวันตกและท่าทีจากเลขาธิการองค์การสหประชาชาติเกิดขึ้น หลังมีสัญญาณความไม่พอใจของกองทัพเมียนมา ต่อการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางอองซาน ซูจี ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ครองที่นั่งในสภาระดับชาติและระดับท้องถิ่นรวม 920 ที่นั่ง จากทั้งหมด 1,117 ที่นั่งทั่วประเทศ ขณะที่พรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ซึ่งถูกมองว่าเป็นพรรคทหาร ได้ที่นั่งต่ำกว่าคาด

ผลการเลือกตั้งดังกล่าวถูกกองทัพเมียนมาตั้งคำถามว่า อาจมีการโกงการเลือกตั้ง โดยอ้างหลักฐานความผิดปกติจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการเลือกตั้งของเมียนมายืนยันว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใส และไม่พบการทุจริตที่กองทัพเมียนมากล่าวอ้าง

โดยหลายฝ่ายกำลังตั้งข้อสังเกตถึงท่าทีของกองทัพในช่วงไม่กี่วันมานี้ ที่อาจเป็นสัญญาณว่า กองทัพเมียนมาอาจใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงทางการเมือง เช่นกรณีที่หัวหน้าหน่วยข่าวสารประจำกองทัพเมียนมาที่ไม่ยอมตอบรับหรือปฏิเสธ หลังถูกผู้สื่อข่าวถามว่า กองทัพเมียนมาจะใช้กำลังข้ายึดอำนาจหรือไม่ หากข้อกล่าวหาโกงการเลือกตั้งไม่ถูกตรวจสอบ

เช่นเดียวกับท่าทีล่าสุดของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาที่ระบุว่า ทุกคนควรเคารพรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายหลักของประเทศ แต่หากไม่มีใครยึดรัฐธรรมนูญแล้ว รัฐธรรมนูญก็ควรถูกยกเลิก จนทำให้ถูกตีความว่า นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณรัฐประหาร

จนถึงตอนนี้สถานการณ์การเมืองในเมียนมายังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด โดยสื่อท้องถิ่นของเมียนมารายงานว่า มีการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนจากพรรค NLD ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกับตัวแทนจากกองทัพเมียนมาเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) แต่การเจรจาไม่เป็นผล ขณะที่ในโลกออนไลน์ปรากฎภาพยุทโธปกรณ์ของกองทัพถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่บนถนนหลายสายในนครย่างกุ้ง และอีกหลายเมืองสำคัญตั้งแต่วันอังคาร (26 ม.ค.)