‘ประยุทธ์’ ยืนยันไทยพร้อมสนับสนุนแก้ปัญหาเมียนมา เสนอแนวทางก้าวแรกต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้นำเมียนมา ขณะที่หน่วยงานนานาชาติชี้ ไทยไม่เปิดทางให้เข้าถึงพื้นที่ปลอดภัยช่วยชาวเมียนมา
วันที่ 18 ม.ค. 2565 เว็บไซต์รัฐบาลไทย เปิดเผยกรณีนางโนลีน เฮย์เซอร์ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ (17 ม.ค.)
ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวยืนยันว่า ไทยพร้อมให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาในเมียนมา ทั้งในบริบทความสัมพันธ์ทวิภาคี ความร่วมมือกับอาเซียน และสหประชาชาติ อย่างไรก็ดี ประเด็นปัญหาในเมียนมามีความซับซ้อน ซึ่งต้องมองด้านประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ ประกอบเพื่อเข้าใจสภาพปัญหาอย่างแท้จริง
โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ควรแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยความเข้าใจ และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้นำเมียนมา ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ ไทยได้ติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ต้น และเห็นว่าสิ่งสำคัญในตอนนี้คือ การยุติการใช้ความรุนแรง การพูดคุยเพื่อหาทางออกโดยสันติ และการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา ซึ่งไทยพร้อมที่จะช่วยขับเคลื่อนความพยายามในด้านนี้ของอาเซียนและของประชาคมโลก ผ่านการขนส่งลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปในเมียนมา โดยไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งไทยได้ให้การสนับสนุนทางการแพทย์และมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม รัฐบาลไทยยืนยันว่า มีประสบการณ์ในด้านนี้ และได้มีการวางแผนเตรียมการรับมือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา โดยได้กำหนด “พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว” (humanitarian area) ไว้ตามแนวชายแดน ซึ่งได้วางแนวปฏิบัติและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ไว้อย่างรอบคอบ และจะส่งตัวกลับประเทศเมื่อผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมามีความพร้อมและสมัครใจจะเดินทางกลับเท่านั้น จึงขอให้มั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้ให้การดูแลด้านมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานเป็นอย่างดี
ขณะที่ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์เพื่อร้องขอให้ไทยสนับสนุนมาตรการป้องกันไม่ให้วิกฤติในเมียนมาเลวร้ายลงไปกว่านี้ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีของไทยมีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้สถานการณ์เมียนมาแย่ลง ซึ่งความขัดแย้งในเมียนมาอาจส่งผลต่อเสถียรภาพที่จะปะทุบริเวณแนวชายแดนด้วย
ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมา ซึ่งถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับไทย ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการรัฐประหารรัฐบาลที่นำโดยนางอองซาน ซูจี เมื่อปีที่แล้ว ขณะเดียวกันกองทัพเมียนมายังใช้ปฏิบัติการทางทหารที่รุนแรงต่อฝ่ายต่อต้านและกองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์ จนเป็นสาเหตุให้เกิดผู้อพยพจำนวนมากทะลักเข้าประเทศไทย ขณะที่กองทัพเมียนมาอ้างว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการต่อต้านการก่อการร้าย
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างการเปิดเผยของหน่วยงานนานาชาติหลายแห่งที่ยืนยันว่า ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่รัฐบาลไทยจัดไว้ให้ผู้หนีภัยจากเมียนมา ขณะที่นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวกับรอยเตอร์ส โดยย้ำเพียงว่า รัฐบาลไทยได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมสากล