สหรัฐฯ จี้กองทัพเมียนมา คืนอำนาจประชาชน หลังมีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิต

รัฐบาลสหรัฐฯ จี้กองทัพเมียนมาคืนอำนาจให้ประชาชน หลังมีผู้ประท้วงเสียชีวิตจากการต่อต้านรัฐประหาร ขณะที่ชาวเมียนมายังเดินหน้าประท้วงรัฐบาลต่อเนื่อง แม้มีรายงานผู้ถูกจับกุมจำนวนมากจากการอารยะขัดขืน

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงข่าวเรียกร้องให้กองทัพเมียนมา ยุติการใช้ความรุุนแรงต่อผู้ชุมนุม พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อกดดันให้กองทัพเมียนมาคืนอำนาจให้กับประชาชน

การแถลงข่าวของโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เกิดขึ้น หลังจากมีการยืนยันว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตจากการสลายชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาแล้ว โดยผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงอายุ 20 ปี ซึ่งเข้าร่วมการชุมนุมที่กรุงเนปิดอว์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเธอถูกยิงเข้าที่ศีรษะ กระสุนทะลุหมวกกันน็อกที่สวมอยู่ หลังเกิดเหตุถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ก่อนที่แพทย์จะระบุว่า เธอบาดเจ็บสาหัสและมีอาการสมองตาย จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.)

การเสียชีวิตของผู้หญิงคนนี้จุดชนวนความโกรธแค้นกองทัพเมียนมามากขึ้นในหมู่ผู้ประท้วง ที่หวังยกระดับการชุมนุมทั่วประเทศเพื่อขับไล่เผด็จการทหาร และหวังเป็นเสียงเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิต

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในเมียนมา ยังคงมีประชาชนออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ (20 ก.พ.) มีรายงานเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมที่เมืองมัณฑะเลย์จนมีผู้บาดเจ็บ ขณะที่หน่วยงานที่จับตาเกี่ยวกับนักโทษการเมืองรายงานว่า จนถึงตอนนี้น่าจะมีชาวเมียนมาถูกควบคุมตัวจากการต่อต้านรัฐประหารไปแล้วเกือบ 550 คน ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นพนักงานการรถไฟเมียนมา เจ้าหน้าที่ธนาคาร และพนักงานของรัฐที่อารยะขัดขืน ผละงานประท้วงการรัฐประหาร

ส่วนเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) เว็บไซต์บีบีซีรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษประกาศระงับการเข้าถึงทรัพย์สินที่มีอยู่ในสหราชอาณาจักรของนายพลระดับสูงเมียนมาเพิ่มเติมอีก 3 คน รวมทั้งรัฐมนตรีกลาโหมเมียนมา หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษมีคำสั่งเดียวกันกับนายพลระดับสูงของเมียนมาไปแล้ว 16 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายทหารเมียนมาจำนวนหนึ่ง รวมทั้งพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ผู้นำรัฐประหาร ถูกนานาชาติคว่ำบาตรไปก่อนแล้ว จากการใช้ความรุนแรงต่อชาวมุสลิมโรฮิงญา