ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนไทย ย้ำจุดยืนสหรัฐฯ หวังให้ไทยและชาติพันธมิตรกดดันเผด็จการทหารเมียนมาให้มากขึ้น ยืนยันไทยมีบทบาทสำคัญ แก้วิกฤติรัฐประหารเมียนมา
วันที่ 4 ธ.ค. 2564 นายแดเนียล เจ. คริเทนบริงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ขณะเดินทางเยือนประเทศไทย โดยช่วงหนึ่งเขาได้ตอบคำถามถึงบทบาทของรัฐบาลไทย ต่อการแก้วิกฤติรัฐประหารในเมียนมา
นายคริเทนบริงค์ยืนยันว่า สถานการณ์ในเมียนมาเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญต่อความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ซึ่งในช่วงหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับไทยในหลากหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารในเมียนมา โดยสหรัฐฯ ได้ย้ำถึงความรุนแรงในเมียนมาทั้งในรูปแบบของการพูดต่อหน้าสาธารณะ และการพูดคุยเป็นการภายในกับรัฐบาลไทยและชาติอื่นๆ มาโดยตลอด
ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำด้วยว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ไทยและชาติพันธมิตร ยกระดับแรงกดดันที่มีต่อรัฐบาลทหารเมียนมา โดยหวังให้รัฐบาลทหารเมียนมาไม่เพียงแค่ปรับทิศทางสู่การหยุดยิงเท่านั้น แต่ยังต้องการให้รัฐบาลทหารปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม และมีเป้าหมายให้เมียนมากลับสู่หนทางประชาธิปไตยด้วย
นอกจากนี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับไทยอย่างจริงจัง ในประเด็นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากการรัฐประหารที่ผิดกฎหมายและไม่เป็นธรรม ซึ่งในอดีตไทยเคยมีบทบาทดูแลผู้ลี้ภัยจากเมียนมาได้เป็นอย่างดี และสหรัฐฯ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้
สำหรับการเยือนไทยของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนอาเซียน 4 ชาติ ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซียและประเทศไทย ท่ามกลางการจับตาถึงความพยายามกลับมามีอิทธิพลในภูมิภาคของสหรัฐฯ ในอาเซียนและภูมิภาคที่สหรัฐฯ เรียกว่า ‘อินโด-แปซิฟิก’ ขณะเดียวกันยังถูกมองว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการลดอิทธิพลของจีนในภูมิภาคด้วย