SHARE

คัดลอกแล้ว
พรรคของนางอองซาน ซูจีน่าจะชนะการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมาเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) ท่ามกลางการจับตาถึงคะแนนนิยมที่จะชี้วัดความพอใจรัฐบาลตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่กองทัพยืนยันยอมรับผลการเลือกตั้งทุกกรณี
คณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมาเริ่มนับคะแนนหลังจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) ซึ่งแม้จะเป็นการเลือกตั้งที่จัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 แต่ก็มีชาวเมียนมาออกไปใช้สิทธิ์จำนวนมาก
แม้จะยังไม่มีผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่การคาดการณ์ของหลายฝ่ายตรงกันว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา น่าจะชนะเลือกตั้งอีกสมัย โดยผู้ติดตามสถานการณ์การเมืองในเมียนมากำลังสนใจว่า พรรคเอ็นแอลดีจะได้คะแนนนิยมเท่าไหร่ เพราะจะสะท้อนความพอใจในการทำงานในฐานะรัฐบาลตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่บรรยากาศบริเวณสำนักงานใหญ่พรรคเอ็นแอลดีที่นครย่างกุ้งเมื่อคืนนี้ มีผู้สนับสนุนพรรคเอ็นแอลดีจำนวนมากไปรวมตัว พร้อมธงสัญลักษณ์ของพรรคและรูปของนางซูจี โดยพวกเขาเชื่อมั่นว่า พรรคเอ็นแอลดีและนางซูจีจะได้เป็นรัฐบาลอีกสมัยแน่นอน
การเลือกตั้งเมื่อปี 2558 พรรคเอ็นแอลดีและนางซูจีชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย จากความหวังว่ารัฐบาลของนางซูจีจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงให้เมียนมาเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หลังถูกปกครองด้วยรัฐบาลทหารมาอย่างยาวนานหลายสิบปี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของนางซูจีถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความล้มเหลวในการลดอำนาจของกองทัพในการเมืองเมียนมา ที่ทหารยังมีโควต้าในสภา 25% รวมทั้งยังควบคุมกระทรวงสำคัญ ได้แก่กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหมและกระทรวงกิจการชายแดน
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวเมียนมาคนหนึ่งยอมรับกับสื่อต่างชาติเมื่อวานนี้ว่า เขาไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลเอ็นแอลดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะการแต่งตั้งบุคคลเข้าไปทำงานในรัฐบาลที่ไม่เหมาะสม ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ แต่ก็ยืนยันจะเลือกพรรคเอ็นแอลดีต่อไปเพื่อให้โอกาสรัฐบาลนางซูจีสานต่องานให้สำเร็จ

ขณะที่พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ยืนยันจะยอมรับผลการเลือกตั้งไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น ตั้งคำถามกับคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า อาจจัดการเลือกตั้งอย่างไม่เหมาะสมจนทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งความเห็นดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างมากว่า อาจขัดต่อกฎหมายที่ทหารต้องเป็นกลางทางการเมือง
โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคคู่แข่งหลักของนางซูจียังเป็นพรรคยูเอสดีพี ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่า เป็นพรรคนอมินีของกองทัพเมียนมา
นอกจากผลการเลือกตั้งแล้ว การเลือกตั้งเมียนมายังถูกจับตาเรื่องการเข้าถึงสิทธิของประชาชนที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย เนื่องจากในครั้งนี้มีคูหาจำนวนมากถูกระงับในรัฐยะไข่ รัฐฉานและรัฐกะฉิ่น ซึ่งเกิดความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเฉพาะในรัฐยะไข่ ที่อยู่ของชาวมุสลิมโรฮิงญาซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วเกิดความรุนแรงจนชาวโรฮิงญาต้องอพยพไปบังกลาเทศจำนวนมาก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายอันโตนีโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงโดยหวังว่า การเลือกตั้งเมียนมาจะต้องเป็นไปอย่างสงบและน่าเชื่อถือ และควรเป็นผลให้ผู้อพยพกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งควรเป็นการเลือกตั้งที่สะท้อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า