รอลงอาญา 2 ปี ‘นารา เครปกะเทย’ หลังถูกศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ชักชวนเล่นพนันออนไลน์

นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลดัง ถูกศาลพิพากษา จำคุก 6 เดือน คดีโฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ เจ้าตัวรับสารภาพ และไม่เคยทำความผิด โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

วันที่ 18 ส.ค. 2564 ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลอ่านคำพิพากษา คดี ‘นารา เครปกะเทย’ รีวิวเว็บพนันออนไลน์ หมายเลขดำที่ 1592-1598 / 2564 รวม 7 สำนวน พนักงานอัยการคดี ศาลแขวง 2 (พระนครเหนือ) เป็นโจทก์ฟ้อง นายอนุวัติ ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง อายุ 21 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือ ทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาต

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 พ.ค.-14 มิ.ย. 2564 จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วม กันประกาศโฆษณา ชักชวนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้ามาเล่นพนันโดยจำเลยเผยแพร่ทางคลิป ‘นาราซื้อทองหลักแสนให้แม่’ ผ่านช่องยูทูบ ‘นาราเครปกะเทย’ โดยชักชวนให้มีเล่นพนันออนไลน์ และจำเลยกล่าวถ้อยคำมีข้อความว่า “นาราก็เล่นเว็บนี้เลยค่ะ เว็บนี้นะคะเป็นเว็บเกมที่เล่นง่าย”

โดยวันที่ 20 มิ.ย. 2564 จำเลยได้ติดต่อเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน จึงสอบปากคำแล้วให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหาและให้อัยการยื่นฟ้องตามกฎหมาย

ต่อมา ศาลได้สอบคำให้การจำเลย ซึ่งให้การรับสารภาพโดยดี ศาลจึงมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะ และพินิจ ประวัติ ชีวิตครอบครัว ประวัติการศึกษา และอื่นๆ ส่งให้ศาลใช้พิจารณาประกอบคำพิพากษาในวันนี้ (18 ส.ค.)

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 1 ปี ปรับ 5,000 บาท จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลงโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,500 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้จำเลยรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ จำนวน 4 ครั้ง ภายในกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ส่วนที่โจทก์ขอนับโทษต่อนั้นเนื่องจากคดีนี้รอการลงโทษ จึงให้ยกคำขอในส่วนนี้

นอกจากนี้ ศาลยังมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยในสำนวนอื่นที่อัยการแยกอีก 6 สำนวน คือ 1593 ถึง 1598/2564 ในความผิดต่างกรรมต่างวาระ โดยให้ลงโทษจำคุกและปรับ กับให้รอลงอาญาเท่ากันทุกสำนวน เมื่อรวมโทษจำคุกทั้ง 7 สำนวน สำนวนละ 6 เดือน โทษจำคุกรวม 42 เดือน และปรับเงินอีก 17,500 บาท