องค์การนาซาแถลงความสำเร็จส่งยาน ‘DART’ เปลี่ยนวงโคจรดาวเคราะห์น้อย ด้านผู้อำนวยการนาซาย้ำ นี่คือก้าวสำคัญของนาซา ซึ่งมีหน้าที่ในการปกป้องโลกมนุษย์จากอะไรก็ตามที่พุ่งเข้ามาจากจักรวาล
.
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) เปิดเผยความสำเร็จจากการทดสอบภารกิจ ‘DART’ ซึ่งเป็นยานขนาดเท่าตู้เย็น ที่ถูกส่งขึ้นไปเพื่อเปลี่ยนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยคู่ไดมอร์ฟอสกับดิดีมอส
.
โดยดาวเคราะห์น้อยทั้งสองดวงที่ถูกใช้เป็นเป้าหมายในการทดสอบ ไม่ได้เป็นอันตรายต่อโลกมนุษย์ แต่นักวิทยาศาสตร์ของนาซาต้องการทดสอบว่า การส่งยานไปเปลี่ยนวงโคจรดาวเคราะห์น้อยสามารถทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่า วงโคจรของไดมอร์ฟอสเปลี่ยนไป 32 นาที จากเดิมที่ดาวเคราะห์ดังกล่าวใช้เวลา 11 ชั่วโมง 55 นาที เหลือ 11 ชั่วโมง 23 นาที
More imagery from today's #DARTMission briefing is now available online: https://t.co/BZsBJnuLDd
As new data come in, astronomers will be able to better assess whether, and how, a mission like DART could be used in the future if we ever discover an asteroid headed our way. pic.twitter.com/mxuaeRemkn
— NASA Asteroid Watch (@AsteroidWatch) October 11, 2022
ผลการทดสอบทำให้นาซาสรุปได้ว่า โครงการเปลี่ยนวงโคจรดาวเคราะห์น้อยสามารถทำได้จริง โดยบิล เนลสัน ผู้อำนวยการนาซาชี้ว่า นาซากำลังเอาจริงเอาจังกับการเป็นผู้ปกป้องโลกมนุษย์ และนาซาพร้อมแล้วที่จะจัดการกับสิ่งใดก็ตามจากจักรวาลที่กำลังจะพุ่งเข้ามายังโลก
.
เยตเต เซนเดส นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เปิดเผยกับอัลจาซีราว่า เขาเติบโตมากับภาพยนตร์อย่าง ‘Armageddon’ และ ‘Deep Impact’ ซึ่งวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังได้กลายเป็นเรื่องจริงแล้ว
.
ที่ผ่านมา มนุษยชาติมีวิธีการป้องกันการถูกพุ่งชนจากสิ่งไม่พึงประสงค์ในอวกาศอยู่หลายรูปแบบ ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนแปลงวงโคจรแบบที่นาซาทดลองล่าสุดแล้ว หน่วยงานด้านอวกาศยังสามารถส่งยานอวกาศบินขึ้นไปขนาบข้างดาวเคราะห์เป้าหมาย และใช้แรงดึงดูดจากยานอวกาศเปลี่ยนทิศทางได้
.
นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ เช่น การส่งระเบิดนิวเคลียร์เพื่อไปเปลี่ยนทิศทางหรือทำลายดาวเคราะห์นั้นๆ หรือการส่งอาวุธไปทำลายขณะที่ดาวเคราะห์ดังกล่าวยังอยู่ในพิสัยไกลเกินกว่าชิ้นส่วนต่างๆ จะตกมาสู่โลก
.
ที่มา NASA, Al Jazeera