SHARE

คัดลอกแล้ว

บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน)’ หรือ NEO เปิดแผนก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย รุกขยายโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง วางเป้าหมาย 5 ปี สัดส่วนรายได้ต่างประเทศมากกว่า15%

ชูกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization พร้อมกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำ ขยาย segment ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภค โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ยอดขายทะลุ 2,494 ล้านบาท เติบโต 9% YoY กำไรสุทธิส่วนของบริษัท 269 ล้านบาท พุ่ง 72% ตอกย้ำความสำเร็จทัพสินค้าเติบโตมากกว่าตลาด มั่นใจทั้งปีเติบโต Double Digits

‘ปัทมา ถกลศรี’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ หรือ NEO) ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำหนดวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจเพื่อก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย โดยการสร้างแลนด์สเคปใหม่มุ่งขยายโอกาสส่งมอบสินค้าอุปโภคของประเทศไทยไปสู่ระดับนานาชาติ รับกับตลาดสินค้าอุปโภคมีศักยภาพเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

โดยคาดการณ์ว่า ปี 2566-2568  ตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือนจะเติบโตเฉลี่ย 9% รวมไปถึงมองโอกาสการเติบโตกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ในตลาดเอเชียใต้ ที่คาดการณ์เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 8.0% ส่วนตะวันออกกลาง และแอฟริกา เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 15.1% ในช่วงปี 2566 – 2568

แผนธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) ในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นการส่งมอบสินค้าอุปโภคทั้งหมด 8 แบรนด์ จาก 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ขยายสู่ตลาดต่างประเทศภายใต้กลยุทธ์ dual tracks ได้แก่ 1.ขยายการเติบโตในประเทศเป้าหมายเดิม ด้วยการนำเสนอสินค้าประเภทใหม่ จากทั้งแบรนด์เดิม รวมทั้งแบรนด์ที่ยังไม่ได้ทำการตลาด และ 2.มุ่งขยายไปยังประเทศที่มีศักยภาพเพิ่มเติม ในส่วนตลาดในประเทศ

แผนธุรกิจ 5 ปียังรวมถึงการขยายไปยัง segment ใหม่ที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโตสูง เช่น segment ผู้สูงวัยที่บริษัทฯ เป็นเจ้าแรกในตลาด พร้อมกับส่งมอบนวัตกรรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค พร้อมชูกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ รวมถึงการบุกขยายพื้นที่การขายให้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งเป็นไปตามปณิธานของ NEO ในการก้าวสู่บริษัท FMCG แห่งนวัตกรรมของเอเชีย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภค ส่งมอบการเติบโตแบบ double digits ให้กับบริษัทฯ ในทุกปี ตลอด 5 ปีนี้

‘ณิศรา ถกลศรี’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ NEO เปิดเผยว่า ความสำเร็จด้านการเป็นผู้นำการสร้างสรรค์นวัตกรรมของ NEO สามารถตอกย้ำการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2565-2566 ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทฯ มีการเติบโต ดังนี้

          • ผลิตภัณฑ์ซักผ้า เติบโต 31.0% ขณะที่ตลาดเติบโต 19.5%
          • ผลิตภัณฑ์โรลออน เติบโต 35.7% ส่วนตลาดเติบโต 12.9% และ
          • ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก เติบโต 10.4% ตลาดเติบโต 7.6%

เพื่อการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ วางแผนยกระดับกระบวนการผลิตและขยายกำลังการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้งใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ (กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็ก) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 400,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันประมาณ 230,000 ตันต่อปี

นอกจากนี้ ภายในโรงงานยังมุ่งเน้น ESG (Environmental, Social and Governance) ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้บรรจุภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุธรรมชาติ โดยวางเป้าหมาย NEO ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20% ภายในปี 2573 เพื่อสร้างโลกที่สะอาดและอนาคตที่ยั่งยืน 

‘ภัทร์ชนก วรศักดิ์โยธิน’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน NEO  เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าต่อยอดพันธกิจสร้างความสำเร็จตามเป้าหมายการเติบโต Double Digits แบบทั้งปี โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 สร้างประวัติศาสตร์รายได้จากการขาย ทะลุ 2,494 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 269 ล้านบาท เติบโต 72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ครึ่งปีแรก (..-มิ.. 2567) มีรายได้จากการขายรวม 4,966 ล้านบาท เติบโต 9% และกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 537 ล้านบาท เติบโต 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยมาจากบริษัทฯ นำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิมให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นและมุ่งขยายสินค้าในพอร์ตโฟลิโอกลุ่มระดับแมสไปสู่ระดับพรีเมียมแมส ส่งผลให้เพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมทั้งดำเนินการสื่อสารทางการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างครบวงจร

‘ณิชมน ถกลศรี’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายนวัตกรรมธุรกิจ NEO กล่าวว่า บริษัทฯ ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ภายใต้ความเข้าใจต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งคนไทยและเอเชีย ด้วยประสบการณ์การทำการตลาดมากกว่าหลายสิบปี ประกอบกับการทำวิจัยในเชิงลึกของบริษัทฯ ส่งผลให้ NEO มองเห็นโอกาสที่จะพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์และทุกช่วงวัย

จากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันใส่ใจดูแลตัวเองและให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า จึงมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะทางที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างความพึงพอใจได้อย่างตรงจุด ยินดีจ่ายแพงขึ้นสำหรับสินค้าที่คุ้มค่ากว่า NEO จึงมุ่งดำเนินกลยุทธ์ Innovation-led Premiumization ที่มีนวัตกรรมเป็นตัวนำ ภายใต้แนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมที่โดดเด่นและแตกต่าง สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีขึ้นให้กลุ่มผู้บริโภคทุกเพศและทุกวัยในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าวิจัยส่วนผสมหลักจากสารสกัดจากธรรมชาติที่อ่อนโยนกับผู้มีผิวแพ้ง่าย

การสร้างสรรค์แนวกลิ่นหรูหราที่ให้ประสบการณ์ความหอมแบบน้ำหอมพรีเมียมระดับโลก นวัตกรรมการช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นยาวนานพิเศษ นวัตกรรมการกำจัดกลิ่นเฉพาะตัวของผู้สูงวัย (Silver Age) และการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบ Pet Friendly สำหรับผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงในที่อยู่อาศัย เป็นต้น โดยวางเป้าหมายภายใน 3 ปี (2567-2569) สัดส่วนรายได้ของผลิตภัณฑ์พรีเมียมแมส (Premium Mass) ของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 10% ของพอร์ตฟอลิโอ

การเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก้าวล้ำช่วยขับเคลื่อนให้ NEO เป็นบริษัท FMCG ระดับแถวหน้าของคนไทย เราไม่เคยหยุดนิ่งการพัฒนานวัตกรรมใหม่  ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง New S Curve ให้กับตลาด การเฟ้นหานวัตกรรมใหม่เข้ามาทั้งในกระบวนการพัฒนาสินค้าและการผลิต มั่นใจว่าบริษัทฯ

ก้าวสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมแห่งเอเชียที่นำทัพสินค้าปักธงในนานาชาติ โดยตั้งเป้าปี 2571 จะขยายฐานประเทศใหม่เพิ่มจาก 16 ประเทศในปี 2566 เป็นมากกว่า 28 ประเทศในปี 2571และคาดการณ์สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณเพิ่มจาก 10% เป็นมากกว่า 15% ซึ่งนับว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ที่น่าสนใจสำหรับเรา  ณิชมนกล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า