รู้จัก “Made with Care” ความใส่ใจจากเนสเพรสโซ เพราะกาแฟพรีเมียมต้องมีมากกว่าเรื่องรสชาติ

เชื่อว่าในภาพจำของหลาย ๆ คน “กาแฟ” เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่มีอยู่ในทุกยุคทุกสมัย แต่เรื่องที่คอกาแฟอาจนึกไม่ถึงหรือหลงลืมไป จะพบว่ากาแฟเป็นมากกว่านั้น เพราะช่วยสร้างอาชีพให้ชุมชน เป็นแหล่งรายได้หลักของหลายครอบครัว และสามารถสร้างความยั่งยืนให้สิ่งแวดล้อม

ดังนั้นกาแฟที่ดีนอกจากจะมีรสชาติอันยอดเยี่ยมแล้ว ยังควรสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้โลกใบนี้ด้วย อย่างที่ เนสเพรสโซ (Nespresso) ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ปณิธาน “Made with Care” กาแฟทุกแก้วเริ่มต้นที่ความใส่ใจ…ใส่ใจในทุกรายละเอียด ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การทำงานร่วมกับชาวไร่กาแฟในกระบวนการเพาะปลูก พิถีพิถันในกระบวนการผลิต ส่งมอบกาแฟระดับพรีเมียมทุกแก้วถึงมือผู้บริโภค ตลอดจนสร้างชีวิตใหม่ให้กาแฟ รวมถึงลดขยะ และใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมายาวนานหลายสิบปี

สร้างสรรค์กาแฟชั้นยอดและยกระดับคุณภาพชีวิตชาวไร่

กว่า 19 ปีที่ผ่านมา เนสเพรสโซได้จับมือองค์กรไม่แสวงผลกำไร Rainforest Alliance ดำเนินโครงการ Nespresso AAA Sustainable Quality^TM มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์กาแฟคุณภาพสูง ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวไร่กาแฟ และรักษาสิ่งแวดล้อม กับชาวไร่กาแฟกว่า 15 ประเทศทั่วโลก ผ่านการทำเกษตรแบบยั่งยืนและการจัดการไร่อย่างเป็นระบบ เพื่อก้าวสู่การเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2022

พลิกฟื้นแหล่งเพาะปลูก สร้างความมั่นคงให้ชีวิตชาวไร่กาแฟ

เนสเพรสโซยังได้มอบพันธสัญญาในการพลิกฟื้นแหล่งปลูกกาแฟที่ถูกทิ้งร้าง และพื้นที่ซึ่งวิถีชีวิตชาวไร่กาแฟเสี่ยงถูกทำลาย เพราะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์โรคระบาด ภายใต้โครงการ Reviving Origins ในประเทศคองโก ยูกันดา โคลอมเบีย และซิมบับเว เพื่อฟื้นคืนแหล่งเพาะปลูกกาแฟที่เปรียบดั่งชีวิตของคนในพื้นที่ รวมถึงช่วยเพิ่มรายได้และสร้างความมั่นคงให้อาชีพชาวไร่กาแฟในระยะยาว ผ่านการพัฒนาคุณภาพของกาแฟ และปลูกฝังวิถีการเกษตรอย่างยั่งยืน อาทิ แจกจ่ายอุปกรณ์สำหรับการประกอบอาชีพ ฝึกอบรมชาวไร่กาแฟ และมีผู้ช่วยจากเนสเพรสโซหลายพันชีวิตช่วยลงพื้นที่ดูแลใกล้ชิดในทุกกระบวนการ จนสามารถพลิกฟื้นผืนดินและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่กาแฟได้ในที่สุด

ใส่ใจในรสชาติ รังสรรค์กาแฟด้วยความประณีต

อีกหนึ่งสิ่งที่แสดงถึงความใส่ใจ Made with Care ของเนสเพรสโซได้เป็นอย่างดีคือ คอลเล็กชั่น กาแฟ Master Origins ที่เฟ้นหาแหล่งกาแฟชั้นยอดจากทั่วโลก มีความโดดเด่นด้านภูมิปัญญาการเก็บเกี่ยวและการเพาะปลูกอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญเพาะบ่มจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ในการแปรรูปกาแฟของแต่ละท้องถิ่น ก่อนจะนำมารังสรรค์เป็นกาแฟคุณภาพดี รสชาติ พรีเมียมที่สะท้อนถึงความโดดเด่นของแต่ละประเทศได้อย่างลงตัว

โดยมาพร้อมกาแฟ 5 รสชาติ ที่เข้ากับ 5 สไตล์ของคอกาแฟ ได้แก่ Master Origins India กาแฟเข้มข้นระดับ 11 ที่ใช้วิธี ‘Monsooning’ ปล่อยให้ลมมรสุมพัดเข้าสัมผัสกับเมล็ดกาแฟ ทำให้กาแฟที่ได้มีกลิ่น หอมกลิ่นเครื่องเทศตามแบบฉบับอินเดียแท้ ๆ เพื่อคนสายแข็งที่ชอบรสเข้มข้น Master Origins Indonesia กาแฟเข้มข้นระดับ 8 ที่ใช้กรรมวิธีแปรรูปโดยนำเมล็ดกาแฟไปสีแบบเปียกในความชื้นคงที่ ทำให้สามารถสกัดเมล็ดกาแฟขณะที่ยังชื้นและสดใหม่ ได้ความหอมกลิ่นไม้ ตอบโจทย์คนรักอาราบิก้า Master Origins Colombia ความเข้มข้นระดับ 6 เกิดจากการใช้เทคนิคเก็บเกี่ยวปลายฤดู โดยเลือกเก็บผลกาแฟที่พร้อมสมบูรณ์เท่านั้น จึงทำให้กาแฟมีความโดดเด่นด้วยสัมผัสรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ และมีกลิ่นไวน์ชั้นดี และเบอร์รี่สีแดง เหมาะกับการดื่มด่ำแบบเอสเพรสโซ Master Origins Ethiopia กาแฟคั่วอ่อนระดับ 4 ที่มีเอกลักษณ์การแปรรูปผ่านการตากแดดแบบธรรมชาติบนเนินสูง 4 สัปดาห์ และคอยพลิกกาแฟให้แห้งสม่ำเสมอ ทำให้ได้รสชาติหวานหอมดอกไม้ นุ่มละมุน ดื่มง่าย ให้ความสดชื่นเต็มที่ และ Master Origins Nicaragua ความเข้มข้นระดับ 5 ที่สุดแห่งความหวานหอมและกลมกล่อม ที่เนสเพรสโซแนะนำให้ดื่มแบบลุงโก้ (Lungo) มีเอกลักษณ์การแปรรูปโดยนำกะลากาแฟที่ยังมีเนื้อของผลกาแฟห่อหุ้มอยู่ออกไปตากแดดทุกชั่วโมง ทำให้ได้รสหวานธรรมชาติซึมเข้าไปในเมล็ดกาแฟ

สร้างสิ่งใหม่ให้สิ่งแวดล้อมพร้อมมอบประสบการณ์กาแฟที่เหนือกว่า

ไม่เพียงแค่นั้น เพราะเนสเพรสโซยังได้ต่อยอดความใส่ใจไปสู่โครงการรีไซเคิลที่ร่วมมือกับ บริษัท วงษ์พาณิชย์ กิจการรีไซเคิลครบวงจรที่ได้รับรองมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมระดับสากล เพื่อลดขยะจากแคปซูลกาแฟให้ได้มากที่สุด โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้านำแคปซูลกาแฟที่ใช้แล้วกลับมาคืน ผ่านบริการรับส่งถึงบ้านและเนสเพรสโซบูติกทุกสาขา เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นสิ่งของมีประโยชน์ เช่น ปากกา ดินสอ และชุดปลูกผักออร์แกนิค (Nespresso Grow Kit) ให้ลูกค้าสามารถกลับไปปลูกพืชผักสวนครัวเองได้ที่บ้าน เพราะเข้าใจดีว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับรสชาติกาแฟไปพร้อมกับปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ต่างจากเนสเพรสโซ ซึ่งปัจจุบันแคปซูลกาแฟของเนสเพรสโซทำมาจากวัสดุรีไซเคิลกว่า 80% แล้ว

อีกทั้งยังร่วมกับพันธมิตรชั้นนำมากมายในการนำอะลูมิเนียมจากแคปซูลใช้แล้วกลับมารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ปากการุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น แบรนด์ Caran d’Ache จักรยานรุ่น RE:CYCLE แบรนด์ Vélosophy เป็นต้น ทำให้เนสเพรสโซสามารถเพิ่มอัตราการรีไซเคิลเฉลี่ยต่อปีได้มากถึง 10.27%

รวมถึงได้มอบชีวิตใหม่ให้ “กากกาแฟ” โดยหลังจากคัดแยกอะลูมิเนียมออกจากแคปซูลแล้ว กากกาแฟที่เหลือจะถูกนำกลับมาใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติสำหรับทำการเกษตรที่วันเดอร์ฟรุ๊ต ฟาร์มผักออร์แกนิค (Wonderfruit Farm) ณ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ จ.ชลบุรี เพื่อสร้างโมเดลความยั่งยืนจากกาแฟสู่ฟาร์มอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม Made with Care จากเนสเพรสโซได้เตรียมต่อยอดความตั้งใจขึ้นไปอีกระดับ กับการเปิดตัวกาแฟ Limited Edition รสชาติใหม่ที่เป็นผลิตผลจากโครงการ Reviving Origins และ Master Origins ในช่วงตลอดทั้งปีนี้ ให้แฟนเนสเพรสโซได้สัมผัสประสบการณ์รสชาติแห่งความใส่ใจมากกว่าที่เคย สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ทาง https://www.nespresso.com/th/ หรือ เฟซบุ๊ก: Facebook.com/Nespresso.thailand อินสตาแกรม: @Nespresso.th #NespressoTH และไลน์ ออฟฟิเชียล แอ็คเคาท์: @NespressoTH

ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นตั้งใจที่ไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เพราะเนสเพรสโซ Made with Care ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อทำให้ธุรกิจ โลก และชุมชนได้เติบโตไปพร้อมกัน