Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

NETA คาดปี 2566 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยอยู่ที่ 25,000 – 30,000 คัน เติบโต 100% ตั้งเป้าส่งมอบ NEAT V ให้ได้ 10,000 คัน ในปีนี้

มร. เป่า จ้วงเฟย (Mr. Bao Zhuangfei) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2565 เป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับ NETA และเป็นปีแรกที่เราขยายธุรกิจออกนอกประเทศจีน ซึ่งมีประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลักของแผนงานเชิงกลยุทธ์ดังกล่าว

โดยผลการดำเนินงานของ NETA ในประเทศจีน ในปีที่ผ่านมา NETA มียอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเติบโตสูงถึง 118% ส่งมอบรถให้กับลูกค้ารวม 152,073 คัน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นการส่งมอบให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน) จำนวน 3,456 คัน

นับเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ EV รายแรกของจีนที่มียอดขายมากกว่า 150,000 คันต่อปี

[ ในไทยปีที่แล้วส่งมอบ 989 คัน ]

สำหรับปี 2565 ที่ผ่านมา NETA ได้เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการพร้อมแนะนำ  NETA V รถยนต์ City Car พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นรุ่นแรกสู่ตลาดเมืองไทย โดยมีราคาขายอยู่ที่ 549,000 บาท ซึ่งได้รับการตอยรับที่ดี โดยมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) บอกว่า บริษัทต้องขออภัยเป็นอย่างสูงสำหรับความล่าช้าในการส่งมอบ NETA V ให้กับลูกค้า ทุกท่าน โดยปีที่ผ่านมาสามารถส่งมอบ NETA V ให้กับลูกค้าในประเทศไทย 989 ราย

โดยเนต้าบอกว่าไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถในการเร่งส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ให้กับลูกค้าทุกคนโดยเร็วที่สุด

ปี 2565 NETA ส่งมอบ NEAT V ให้ลูกค้าคนไทยไป 989 คน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าส่งมอบ 10,000 คัน

[ ตั้งเป้าปีนี้ส่งมอบ 10,000 คัน ]

สำหรับในปี 2566 บริษัทฯ มั่นใจว่าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจะเติบโตขึ้นกว่า 100% จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ รวมไปถึงทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น การมีสถานีชาร์จที่เข้าถึงง่ายและครอบคลุมหลายมากขึ้น

ที่สำคัญ ต้นทุนการใช้งาน หรือ Cost of Ownership ที่น่าดึงดูดใจกว่ารถยนต์ทั่วไปในท้องตลาด โดยคาดการณ์ตลาดรวมไว้ประมาณ 25,000 – 30,000 คัน ซึ่ง NETA ตั้งเป้าส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ลูกค้าคนไทย 10,000 คัน

โดยจะเดินหน้าแผนงานในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

พร้อมเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบใหม่ และให้คนไทยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของยานยนต์ไฟฟ้า

“นอกจากนี้ จะให้การสนับสนุนและร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์ในประเทศ รวมทั้งผลักดันในประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน” มร. เป่า จ้วงเฟย กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน NETA มีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว 24 แห่ง ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

รวมไปถึงการเปิดให้บริการ NETA SPACE (เนต้า สเปช) ภายในพื้นที่ศูนย์การค้าเพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยวางเป้าหมายขยายเพิ่มเป็น 30 แห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย โดยมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งการฝึกอบรมความพร้อมเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพ การจัดเตรียมอะไหล่สำรองให้สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที

รวมไปถึงการให้คำแนะนำด้านผลิต และความรู้พื้นฐานด้านการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมบริการช่วยเหลือลูกค้ากรณีฉุกเฉินผ่าน NETA Call Center ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

[ เดินหน้าขยายตลาด EV ในอาเซียน ]

สำหรับภูมิภาคอาเซียนนอกจากจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลกแล้ว ยังสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานในระดับสากลของ NETA

โดยบริษัทได้เริ่มแผนขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ภายใต้แผนกลยุทธ์ดังกล่าวประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกและรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน อีกทั้งยังมีนโยบายการสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม

ทำให้ประเทศไทยถูกวางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินธุรกิจของ NETA ในภูมิภาคนี้ และพร้อมเดินหน้าขยายสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

โดยภายหลังจากการเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย NETA ได้ขยายการดำเนินงานไปยัง ลาว พม่า ภูฏาน เนปาล รวมไปถึงอิสราเอล ก่อนจะขยายไปยังประเทศในตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า