Netflix ย้ำความหลากหลายของภาพยนตร์ไทยในแคมเปญ #ฉายแล้ววันนี้ที่Netflixรามา ที่สะท้อนทิศทางออริจินัลคอนเทนท์ไทยในอนาคต

Netflix ย้ำความหลากหลายของภาพยนตร์ไทยในแคมเปญ #ฉายแล้ววันนี้ที่Netflixรามา ที่สะท้อนทิศทางออริจินัลคอนเทนท์ไทยในอนาคต

“หนังไทยมีแต่หนังรัก หนังตลก หนังผี” เป็นคำที่เราได้ยินต่อ ๆ กันมาจนชินในยุคหลัง กับศรัทธาในภาพยนตร์ไทยที่ค่อย ๆ ถดถอยลงทุกที แต่ในวันนี้ Netflix ผู้นำบริการสตรีมมิ่งความบันเทิงระดับโลก ร่วมมือกับ หอภาพยนตร์ หน่วยงานของรัฐผู้เก็บรักษาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาและมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ พาผู้ชมกลับไปสัมผัสความเรืองรองในยุคเก่าก่อน ด้วยการนำภาพยนตร์ไทยในตำนานหลายเรื่องหลากแนวมาให้ชม

ถ้าใครได้ดูครบก็จะเหมือนได้เดินทางผ่านเวลาไปชมประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยฉบับย่อเลยทีเดียว และนอกจากความหลากหลายแล้วยังมีภาพยนตร์หลายเรื่องที่มีความพิเศษอย่าง ทวิภพ THE SIAM RENAISSANCE (2547) ที่มาฉายในฉบับ Director’s Cut โดยจะมีฉากที่ไม่มีในฉบับเต็มอีกด้วย หรือหลายเรื่องก็ได้ถูก remaster มาเป็นอย่างดี

ชลิดา เอื้อบำรุงจิต ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์  กล่าวว่า “ภาพยนตร์ในแคมเปญ #ฉายแล้ววันนี้ที่Netflixรามา แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในเชิงเนื้อหาและสไตล์ของหนังไทย ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหากว่ากันตามจริงแล้วหนังไทยมีความหลากหลาย ไม่ได้มีเพียงแบบเดียวหรือสองแบบมาแต่ไหนแต่ไร ลิสต์หนังไทยในแคมเปญนี้

จะแสดงให้เห็นมิติทางประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ไทยตลอดกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ผู้ชมจะเห็นได้ถึงวิวัฒนาการของ ศิลปินผู้สร้างภาพยนตร์ นักแสดง รูปแบบการผลิต และประเภทของภาพยนตร์ต่างๆ ทั้งหนังตลาด หนังอินดี้ หนังศิลปะ หนังรัก หนังครอบครัว หนังวัยรุ่น หนังตลก หนังบู๊ ผู้ชมจะได้รับชมผลงานของผู้กำกับชั้นครูอย่าง รัตน์ เปสตันยี หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ยุทธนา มุกดาสนิท บัณฑิต ฤทธิ์ถกล จนมาถึงผู้กำกับรุ่นกลางและรุ่นใหม่ ที่ได้เปิดเส้นทางนำภาพยนตร์ไทยไปสู่ความสำเร็จใหม่ๆ บนเวทีระดับโลก หอภาพยนตร์มีส่วนร่วมในการแนะนำหนังในแคมเปญนี้ โดยอยากให้ผู้ชมที่อาจจะหลงลืมหรือไม่ใช่แฟนประจำของหนังไทย ได้เห็นประวัติศาสตร์ฉบับย่อของหนังไทย และเห็นภาพรวมความหลากหลายที่มีในภาพยนตร์ไทย ตลอดจนร่วมเฉลิมฉลองการเดินทางของหนังไทยไปพร้อมๆ กัน”

ความหลากหลายในการคัดเลือกภาพยนตร์มาฉายในครั้งนี้ บวกกับในระยะหลังที่ Netflix มีคอนเทนต์ที่พูดเรื่องประเด้นสังคมมากขึ้น จะสะท้อนถึงทิศทางของ Orginal Content ไทย ที่ดูจะพูดถึงประเด็นที่หลากหลาย รวมไปถึงประเด็นสังคมมากขึ้นแค่ไหน ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ประจำประเทศไทยของ Netflix กล่าวไว้ว่า

“เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราตั้งทำมากกว่าครับ ถ้าจะพูดให้มันเป็นแอคชั่นหน่อยก็คือ เรากำลังขยายขอบเขตของทุก ๆ อย่างด้วยความเคารพ จากประสบการณ์ที่ได้ทำ[ภาพยนตร์]มา ประสบการณ์ที่ได้ดูหนังยุคก่อนมาตลอด เรารู้สึกว่าแนวคิดของคนทำนั้นมีแตกต่างกันมากมาย ณ ช่วงเวลาหนึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องของยุคสมัย เรื่องขอแฟชั่น เรื่องของกลไกของตลาดต่าง ๆ นานา ที่ทำให้การที่นำเสนอหนังไปมันมีข้อจำกัด แต่ที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่เคยรู้สึกว่าความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยน้อยลดน้อยลงเลย ยิ่งมีข้อจำกัดมาก ผมว่าจริงๆ แล้วทุกคนยิ่งครีเอทีฟมากในการพูดสิ่งนั้นออกไปโดยที่ไม่เกิดปัญหาอะไร แต่ว่ามันก็จะเป็นฟอร์มหนึ่งของยุค สมมุติว่าถ้าเกิดอีกสัก 20 ปีต่อมา เรามองกลับมาดูยุคนี้ จริง ๆ เราอาจจะเห็นว่าเราพูดเรื่องปัญหาสังคมอยู่นะ แต่ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งที่มันอยู่รอดได้ในยุคนี้

เนื่องจากว่า Netflix เป็น global platform เราเลยมีประสบการณ์ค่อนข้างเยอะ ในการที่เราได้เห็นคอนเทนต์ต่าง ๆ จากทั่วโลก ว่ามันทำงานยังไงกับคนโลคอลเองและก็มีหลาย ๆ ส่วนก็ทำงานในระดับโกลบอลด้วย มันเลยเป็นหมุดหมายอันหนึ่งในตอนที่ผมเข้ามา โชคดีที่ทาง Netflix เริ่มสำรวจความเป็นโกลบอลกับโลคอลมาสักพักแล้วก็เริ่มมีความชัดเจนว่าการที่เราจะมาโฟกัสโลคอลมันเป็นสิ่งที่ทำได้และแข็งแรงพอ แต่มันอาจจะต้องทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่เยอะหน่อย เขาเลยต้องการคนที่อยู่ในพิ้นที่มาดู และเราก็จะนำสิ่งที่เขาเรียนรู้มาก่อนหน้านี้มาใช้ เราจะค่อย ๆ explore ความหลากหลายของเนื้อหาแน่นอน

ยิ่งตั้งแต่เข้ามาก็ได้พบกับทีมครีเอทีฟเยอะมาก และก็พบว่าทุกคนเองก็มีไอเดียที่ดีอยู่แต่ขาดโอกาสและขาดพื้นที่ เดี๋ยวพอปลายปี ที่เราค่อยข้างพร้อมมากกว่านี้อีกนิดนึง เราจะเริ่มเห็นแล้วล่ะว่า เราทำอะไรอยู่ และทำอย่างที่พูดอยู่ไหมด้วย”

ระหว่างที่รอคอนเทนท์ไทนใหม่ ๆ นั้น เราสามารถย้อนกลับไปเฉลิมฉลองกับคอนเทนท์คุณภาพหลากรสชาติจาก Netflix ได้เลย

รายชื่อภาพยนตร์ไทยในตำนานที่ #ฉายแล้ววันนี้ที่Netflixรามา  ตั้งแต่ 1 เมษายน เป็นต้นไป

หนังรางวัลระดับโลก

มหา’ลัย เหมืองแร่ (2548)

THE TIN MINE

4 ปีในเหมืองแร่ คือมหาลัยชีวิตของชายหนุ่ม ลึกซึ้ง งดงาม หนึ่งในภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมตลอดกาลของไทย

ลุงบุญมีระลึกชาติ (2553)

UNCLE BOONMEE WHO CAN RECALL HIS PAST LIVES

เล่าความเชื่อ อย่างเหนือจินตนาการ ได้รางวัลปาล์มทองคำ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 63

เรื่องตลก 69 (2542)

6IXTYNIN9

หนังตลกร้ายที่ปลุกวงการภาพยนตร์ไทยในวิกฤติต้มยำกุ้ง ได้รับรางวัล Don Quixote Award – Special Mention จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลินปี พ.ศ. 2543

แมรี่ อิส แฮปปี้ (2556)

MARY IS HAPPY, MARY IS HAPPY

จาก 410 ประโยคลอยๆ ของทวิตเตอร์เด็กสาวคนหนึ่งสู่ภาพยนตร์วัยรุ่น เกิดเป็นความสนุกสดใหม่ ที่เดินสายรับรางวัลมาแล้วทั่วโลก

กระเบนราหู (2561)

MANTA RAY

ถ้าเป็นคุณ จะช่วยเหลือคนแปลกหน้าให้มาอยู่ในบ้านตัวเองหรือเปล่า

ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Orizzonti Award ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ครั้งที่ 75

หนังหาดูยาก

สันติ-วิณา (2497)

SANTI-VINA

โศกนาฎกรรมความรักในภาพหลังของสังคมไทยช่วงก่อนปี พ.ศ. 2500 ผลงานชิ้นเอกของ รัตน์ เปสตันยี่ ที่ฟิล์มต้นฉบับสูญหายไปกว่า 60 ปี คว้ารางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยมและกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม จากงานประกวดภาพยนตร์นานาชาติแห่งเอเชียอาคเนย์ ครั้งที่ 1

แพรดำ (2504)

BLACK SILK

ภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์เรื่องแรก ๆ ของไทย เรื่องราวของสาวชุดดำ ที่ไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม

มนต์รักทรานซิสเตอร์ (2544)

MON-RAK TRANSISTOR

มีความฝัน มีความรัก แต่ต้องพักไปเกณฑ์ทหารก่อน เรื่องสะท้อนสังคม ขบข้น พลันโศก จากวรรณกรรมขายดีของวัฒน์ วรรลยางกูร

ทองพูน โคกโพ ราษฎรเต็มขั้น (2520)

THE CITIZEN

ทองพูนถูกขโมยรถแท็กซี่ เครื่องมือทำมาหากินชิ้นสุดท้ายของเขา เรื่องราวที่สะท้อนระบบยุติธรรมอันไม่เท่าเทียมของสังคมไทย ที่ยังเข้าใจได้แม้ในปี 2565 ตีแผ่สังคมอย่างประณีตโดยหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

ฟ้าทะลายโจร (2543)

TEARS OF THE BLACK TIGER

หนังคาวบอยแบบไทย ๆ กับองค์ประกอบศิลป์จัดจ้าน ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ได้ฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี พ.ศ. 2544

ผีเสื้อและดอกไม้ (2528)

BUTTERFLY AND FLOWERS

ชีวิตในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนที่จะกลายเป็นเขตความรุนแรง จากวรรณกรรมเยาวชนอมตะที่เผยแง่มุมความเป็นมนุษย์ที่งดงามของคนชายขอบ

กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ (2538)

ONCE UPON A TIME

การผจญภัยของเด็กๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง หนึ่งในภาพยนตร์ครอบครัวระดับมาสเตอร์พีซของไทย ที่เขียนบท 6 ปีและใช้ฟิล์มกว่า 500 ม้วน

หนังฮิตโรงแตก

องค์บาก (2546)

ONG-BAK

ตัวแทนหนังบู๊แอ็กชันไทยในสายตาชาวโลก กวาดรายได้ในทุกประเทศที่เข้าฉาย

บางระจัน (2543)

BANG RAJAN

กลุ่มคนธรรมดาที่สู้เพื่อชาติจนตัวตาย ทำรายได้มหาศาลในโรงภาพยนตร์กว่า 150 ล้านบาท

ทวิภพ (2547)

THE SIAM RENAISSANCE

เนรมิตจากนิยายอิงประวัติศาสตร์ของทมยันตี ด้วยทุนสร้างกว่า 100 ล้านบาท

รักแห่งสยาม (2550)

THE LOVE OF SIAM

หลากรูปแบบของความรัก ที่สร้างบทสนทนาให้สังคมไทย ประสบความสำเร็จ ทั้งรางวัล กระแส และรายได้

นางนาก (2542)

NANG NAK

จากตำนานสยองขวัญ สู่หนังร้อยล้านเรื่องแรกของไทย สร้างปรากฎการณ์ “เต็มทุกที่นั่ง” ในแทบทุกโรงที่เข้าฉาย

สตรีเหล็ก (2543)

THE IRON LADIES

ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์จากเรื่องจริงของการต่อสู้ของ LGBTQ+ ไทยในสนามวอลเลย์บอล

ข้างหลังภาพ (2528)

BEHIND THE PAINTING

“ฉันตายโดยปราศจากคนที่รักฉัน แต่ฉันก็อิ่มใจที่มีคนที่ฉันรัก” นิยายเรื่องฮิตของศรีบูรพา เวอร์ชั่นที่ใกล้เคียงบทประพันธ์มากที่สุดโดยเปี๊ยก โปสเตอร์

สามารถรับชมภาพยนตร์ข้างต้นได้แล้ววันนี้ที่ http://www.netflix.com/netflixรามา