ปธน.เกาหลีใต้คนใหม่ลั่นพร้อมเจรจา ยื่นข้อเสนอช่วยฟื้นเศรษฐกิจเกาหลีเหนือ หากยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์

ยุน ซอกยอล สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ ลั่นโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคาม แต่ประตูสู่การเจรจาและแก้ปัญหาอย่างสันติยังคงเปิดกว้าง พร้อมเสนอความช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หากเกาหลีเหนือรับข้อเสนอยอมปลดนิวเคลียร์ 

วันที่ 10 พ.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายยุน ซอกยอล เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ในวันนี้ (10 พ.ค.) โดยยืนยันว่ายังเปิดกว้างสำหรับการเจรจากับเกาหลีเหนือ พร้อมมอบความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ หากเกาหลีเหนือรับรองว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์ 

“โครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามความมั่นคงเฉพาะกับเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นภัยคุกคามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม ประตูสู่การเจรจายังคงเปิดกว้างอยู่เสมอเพื่อขจัดภัยคุกคามนี้อย่างสันติ” นายยุนระบุ พร้อมเสริมว่า เขาต้องการช่วยปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ในเกาหลีเหนือเพื่อแลกกับความปลอดภัยที่มากขึ้น

“หากเกาหลีเหนือเริ่มกระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างแท้จริง เราพร้อมจะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อนำเสนอแผนเด็ดเดี่ยวที่จะมาช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของเกาหลีเหนืออย่างมากมาย และปรับปรุงชีวิตของประชาชน” นายยุนกล่าว 

ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ยังกล่าวเสริมด้วยว่า “การปลดอาวุธนิวเคลียร์มีส่วนสำคัญมากในการนำสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนมาสู่คาบสมุทรเกาหลีและที่อื่นๆ” 

ทั้งนี้ นายยุน ซอกยอล วัย 61 ปี เป็นผู้แทนพรรคพีเพิล พาวเวอร์ พรรคฝ่ายค้านแนวอนุรักษ์นิยม ซึ่งสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างนายลี แจมยอง จากพรรคเดโมเครติกของฝ่ายรัฐบาลในการเลือกตั้งเมื่อเดือน มี.ค. มาได้อย่างเฉียดฉิว ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 20 ของเกาหลีใต้ 

นายยุนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก ทั้งจากการยกระดับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หลังจากที่การเจรจาปลดนิวเคลียร์ได้หยุดชะงักลงมาเป็นเวลาหลายปี รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องซึ่งได้กลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มานานกว่า 2 ปี 

ที่ผ่านมา นายยุนได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือมาโดยตลอด โดยระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เขาได้ให้คำมั่นว่าจะแสดงจุดยืนที่เข้มงวดมากขึ้นต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างจากอดีตประธานาธิบดีมูน แจอิน ที่ส่งเสริมการปรองดองอย่างสันติระหว่างสองเกาหลีเสมอมา

ขณะเดียวกัน นายยุนยังเคยประกาศชัดเจนว่าจะไม่ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร หรือเตรียมสนธิสัญญาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เอาไว้ จนกว่าเกาหลีเหนือจะแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างแข็งขันที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์และสามารถตรวจสอบได้ พร้อมระบุว่าเขาจะสร้างกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งซึ่งจะสามารถยับยั้งการยั่วยุจากเกาหลีเหนือได้อย่างแน่นอน