เปิดแถลงการณ์ เพื่อไทยยกเลิก MOU 8 พรรคร่วม จำเป็นต้องแยกตั้งรัฐบาลโดยไม่มีก้าวไกล

“ไม่ใช่เป็นการบอกเลิก” แต่จำเป็นต้องแยกตั้งรัฐบาลโดยไม่มีก้าวไกล เรายืนยันไม่แก้ ม.112 ด้านภูมิธรรม บอก ไม่ได้คิดว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลแล้วต้องยืนอยู่ตรงข้ามกันเสมอ ยังไม่ตอบ ‘รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ จะเป็นพรรคร่วมใหม่หรือไม่ แต่ยืนยันจัดตั้งรัฐบาลได้ มั่นใจได้นายกฯ ในวันเดียว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังแถลงการณ์ ยุติ MOU 8 พรรคร่วม และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ว่า บรรยากาศการพูดคุยกับพรรคก้าวไกล เริ่มพูดคุย 09.30-11.45 น. (2 ส.ค. 2566) บรรยากาศพูดคุยเป็นไปด้วยดี ก้าวไกลก็รับฟังและต้องการความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย ‘โดยสรุปไม่ใช่เป็นการบอกเลิก’ ไม่อยากใช้ศัพท์ทั่วไปกังวลว่าจะมีปัญหา แต่เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นที่ต้องชี้ถึงเหตุและผลต้องแยกมาจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกล ส่วนวันโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค. 66 ได้คุยกับพรรคก้าวไกลภายใต้ข้อตกลงเห็นพ้องต้องกันเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกลจะโหวตหรือไม่โหวตก็แล้วแต่

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวอีกว่า เรื่องแสดงวิสัยทัศน์แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ข้อบังคับรัฐธรรมนูญเขียนไว้เฉพาะเรื่องของการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธาน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกนายกฯ ไม่ได้เขียนไว้ สังเกตทุกครั้งจะไม่มี แต่ครั้งนี้ผู้เสนอชื่อเขามีความประสงค์อยากจะแสดงวิสัยทัศน์ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมแต่ละครั้ง กรณีของ เศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้เป็น สส. เป็นแคนดิเดตนายกฯ และเห็นว่าคุณเศรษฐา พร้อมจะตอบทุกคำถามในสิ่งที่ทุกคนมีข้อสงสัยแต่ว่าอาจจะไม่สะดวกและเข้าไปในสภาอาจจะมีประเด็นอื่นๆ ที่คาดไม่ถึง ดังนั้นคุณเศรษฐา จะไม่เข้าสภาแต่ทีมงานคนที่เป็นผู้แทนราษฎร ถ้ามีกรณีมีพาดพิง ในฐานะแคนดิเดตพรรค ก็พร้อมเอาข้อมูลชี้แจงในที่ประชุมได้ และมั่นใจว่าจบวันเดียวแล้วก็ได้นายกฯ 4 ส.ค. 66

“แนวทางที่ชัดเจนที่ได้แสดงเจตนารมณ์ความกังวลของ สว. และ สส. หลายพรรค เรามั่นใจว่าภายในเงื่อนไขที่แถลงไป จะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ เพราะได้ลดเงื่อนไขที่เคยกังวลไว้แล้วทั้งหมด คาดว่าจะเป็นเหตุผลให้ สว. มาร่วมโหวตให้” นพ.ชลน่าน กล่าว

ส่วนพรรคร่วมใหม่ จะมีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชารัฐ มาร่วมด้วยหรือไม่ ขอให้รอพรุ่งนี้

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คาดว่า พรุ่งนี้จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้แน่ รอเวลาได้เลย (3 ส.ค. 2566) ขณะเดียวกันยังได้ชี้แจงประเด็นที่สมาชิกพรรคก้าวไกลระบุว่า พรรคเพื่อไทยพยายามดึงเวลาจนถึงนาทีสุดท้ายแล้วทำให้เกิดปัญหาเหมือนหลอกให้ก้าวไกลโหวตให้และไม่ดำเนินการไปตามที่ตรงไปตรงมา ซึ่งได้ชี้แจงกับพรรคก้าวไกลแล้วไม่ใช่เพราะดึงเวลา เราได้รับการร้องขอจากแกนนำพรรคก้าวไกลให้รอจนถึง 5 ทุ่ม ของคืนวันที่ 31 ก.ค. 2566 ทุกอย่างที่ช้ามาจากการที่มีการหารือ รอจนถึงเที่ยงคืนก็ไม่มีการติดต่อกลับมา เพราะ​ฉะนั้นวันที่ 1 ส.ค. 2566 จึงเริ่มดำเนินการตามกระบวนการพรรคเพื่อไทย เราได้คุยพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่องแต่อาจจะเป็นปัญหาการสื่อสารภายใน

การตกลงกันครั้งนี้ระหว่างเพื่อไทยก้าวไกล เราต่างคนต่างทำหน้าที่ยืนยันได้ว่าข้อแรกการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เพื่อไทยจัดตั้ง จะไม่มีก้าวไกลร่วมจัดตั้งด้วย การแก้ไข ม.112 กับเรื่องนโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ ประชาชน ไม่ว่าจะเสนอโดยฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ถ้าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์เราพร้อมผลักดันด้วย ไม่ได้คิดว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลแล้วต้องยืนอยู่ตรงข้ามกันเสมอ ส่วนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยของพรรคเพื่อไทยขณะนี้คือเรายืนยันว่าเราไม่สนับสนุน ม.112 เรื่องที่สามคือ เพื่อไทยจะใช้ประสบการณ์ความสามารถแก้วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตทางการเมืองทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะประเมินว่านี่คือปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการให้เข้าสู่ระบบปกติทั้งหมด

“พรุ่งนี้วันที่ 3 ส.ค. 2566 จะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในการจัดตั้งรัฐบาล” ภูมิธรรม กล่าว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กล่าวเสริมว่า 8 พรรคร่วมนั้น พรรคเพื่อไทยตัดสินใจพบทุกพรรค โดยมีสาระสำคัญได้แจ้งแต่ละพรรคร่วม 3 ประเด็นด้วยกัน เรื่องแรกเพื่อไทยแจ้งเหตุผลและความจำเป็นการจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ในการจัดตั้งครั้งนี้ เรื่องที่สองได้แจ้งพรรคร่วมแล้วว่า จะตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมขอให้เป็นดุลพินิจของแต่ละพรรค ถ้าเห็นว่าแนวทางพรรคเพื่อไทย ที่ได้เสนอไปสามารถเข้าร่วมได้ก็จะยินดีที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ข้อสุดท้ายเรื่องการโหวตพรรคก้าวไกลจะช่วยหรือไม่ช่วยอย่างไร ได้แจ้งไปยังพรรคร่วมในเรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์พรรคก้าวไกล เพื่อไทยไม่อาจแสดงความคิดเห็นอย่างไรได้