เมิน ‘จตุพร’ หักเหลี่ยมโหด ‘แพทองธาร’ ควง ส.ส.หนองคาย เดินหน้าหาเสียง

‘แพทองธาร’ ควง ส.ส.หนองคาย แวะชิมข้าวจี่ ของอร่อยเมืองหนองคาย ด้าน ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย เมิน ‘จตุพร’ หักเหลี่ยมโหด ขอเดินหน้าหาเสียง ขณะที่ประชาชนเรือนหมื่นรอรับฟัง ‘แพทองธาร’ แกนนำพรรคปราศรัย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย ส.ส.หนองคาย นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ นายเอกธนัช อินทร์รอด น.ส.ชนก จันทาทอง และ ส.ส.ของพรรค อาทิ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมแวะทักทายแม่ค้าข้างริมทาง ที่กำลังค้าขาย ข้าวจี่ ไก่ทอด หมูปิ้ง ทั้งนี้มีแม่ค้าหมูปิ้งได้พูดกับ ส.ส. และสื่อมวลชนว่าลูกน้องหักเหลี่ยมโหดลูกพี่

น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะได้ร่วมทานข้าวจี่ริมทางพร้อมทั้งป้อนข้าวจี่ให้กับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของน.ส.แพทองธาร ด้วย โดยคณะของพรรคเพื่อไทย ได้ถามถึงการค้าขายของแม่ค้า และร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเองกับประชาชน

1. เวลา 09.30 น. คณะของพรรคเพื่อไทยได้เดินทางไปที่เวทีปราศรัยใหญ่ เทศบาล อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ท่ามกลางประชาชนหลักหมื่นคนรอรับฟังการปราศรัย ทันทีที่มาถึง น.ส.แพทองธาร พร้อมนายกฤษฎา นายเอกธนัช น.ส.ชนก ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอรับฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อไทย และมีประชาชนเข้ารุมล้อมขอจับมือ น.ส.แพทองธาร พร้อมท้้งพูดว่าขอให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ทานข้าวจี่อร่อยมาก และชอบเพราะหอมมาก เหมือนโมจิปนกับข้าวหลาม อีกทั้งร้านที่ทาน ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ชอบข้าวจี่เพราะเป็นของโปรดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงทำให้ตนเองแวะมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีแม่ค้าถามเรื่องลูกน้องหักเหลี่ยมโหด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนแรกไม่นึกเลยเพราะตนมาดูข้าวจี่เฉยๆ

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า เราอย่าไปขยายความเพราะเป็นเพียงสถานการณ์หนึ่งในทางการเมือง มันจะยุติคลี่คลาย และ น.ส.แพทองธารก็นำพรรคเพื่อไทยพบปะประชาชน ไม่ได้มีการตอบโต้กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. และพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าแบบนี้จนถึงวันเลือกตั้ง

‘เพื่อไทย’ ประกาศ ‘ล้างหนี้ด้วยรายได้’ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่าแรง – ราคาสินค้าเกษตร

นายสุทิน คลังแสง ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันพี่น้องประชาชนตกอยู่ในสภาวะหนี้สินล้นพ้นตัวมาตลอด 8 ปี จากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ เช่น ยางพารา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของชาวหนองคาย ในยุค ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ราคารับซื้ออยู่ที่กิโลรัมละ 120 บาท ยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท แต่ราคารับซื้อล่าสุดวานนี้ที่ อ.วังสะพุง จ.เลยอยู่ที่กิโลกรัมละ 17 บาท ขณะนี้พี่น้องประชาชนเป็นหนี้ ธกส. ลูกหลานเป็นหนี้ กยศ. รับปริญญาวันนี้ อีก 2 ปีรับหมายศาลจากการที่ กยศ.ฟ้องร้องติดตามหนี้อยู่กว่า 2.7 ล้านคน ทั้งหมดคอปัญหาหนี้สินที่พี่น้องประชาชนต้องเผชิญมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

นายสุทิน ยังได้สอบถามความต้องการประชาชนในเวทีปราศรัยด้วยว่า หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องการให้แก้ไขปัญหาใดมากที่สุด ซึ่งประชาชนอยากให้แก้ไขปัญหาหนี้สิน มากกว่าการก่อสร้างถนนหนหรือโครงการขนาดใหญ่ และขณะนี้มีป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองหนึ่งติดตั้งตามถนน พักหนี้ 3 ปี หยุดต้นหยุดดอก ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยทำมาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน แต่เพื่อไทยจะไม่ทำแบบเดิม เพราะจะเดินหน้าล้างหนี้ด้วยวิธีคิดที่แตกต่างด้วยการลดค่าใช้จ่ายลง ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ค่าแรงเพิ่มขึ้นจากเดิม 340 บาท เป็น 600 บาทในปี 2570 เพราะเมื่อเทียบค่าแรงขั้นต่ำต่อวันของไทยกับประเทศในภูมิภาคเอเชียอย่าง บรูไน ค่าแรงขั้นต่ำต่อวันอยู่ที่ 1,700 บาท สิงคโปร์ 1,400 บาท มาเลเซียใกล้ประเทศไทยยังอยู่ที่ 544 บาท ดังนั้นค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานไทยต้องเพิ่มขึ้น