พรรคการเมืองลงพื้นที่เก่ง หยุดนี้ไปไหนกันบ้าง ไปดูกัน

ความเคลื่อนไหวการเมืองช่วงใกล้เลือกตั้ง ต้องบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่นักการเมือง ‘ลงพื้นที่เก่งมาก’ เฉพาะวันเสาร์ ที่ 18 ก.พ. 2566 ลงพื้นที่กันแทบทุกพรรค เปิดตัวผู้สมัครบ้าง เปิดเวทีปราศรัยบ้าง ไปดูกัน

• ‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่ ‘อำนาจเจริญ-ยโสธร-ร้อยเอ็ด’ ชูนโยบายช่วยประชาชนสลายหนี้

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสุทิน คลังแสง ประคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมปราศรัยที่สวนมิ่งเมือง เฉลิมพระเกียรติ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

น.ส.แพทองธาร ขึ้นเวทีปราศรัยถามว่า ช่วงนี้มีหนี้มีสินกันเยอะใช่หรือไม่ พรรคเพื่อไทยมีนโยบายมากมายที่จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนหายจนอย่างถาวร แต่ถูกรัฐประหารไปเสียก่อน มาครั้งนี้ มีนโยบายค่าแรง 600 บาทเพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าให้พี่น้องประชาชน ซึ่งคนถามว่าจะทำได้อย่างไร

พรรคเพื่อไทยมีนโยบายปรับระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศให้ดีขึ้น เพื่อนายจ้างจะได้มีค่าจ้างมาจ่ายพี่น้อง โตไปด้วยกัน และหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลครบ 4 ปี เพื่อไทยทำให้เกิดขึ้นได้แน่นอน นอกจากนี้จะนำนโยบายกองทุนหมู่บ้านกลับมา เพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงแหล่งทุน เมื่อพี่น้องเข้าถึงแหล่งทุนได้ก็จะมีเงินไปต่อยอด และไปใช้หนี้

เราจะเปิดตลาดให้พี่น้องขายได้ทั่วประเทศ และทั่วโลก เราอาจจะไปขายได้ไม่ถึงดาวอังคาร แต่ทั่วโลกเราไปได้แน่นอน วันนี้ตนมากับพรรคเพื่อไทย มาขอโอกาสพี่น้องเลือกเพื่อไทยทั้งคน ทั้งพรรค เพื่อเอา ส.ส.เข้าไปโหวตนโยบายต่างๆที่พรรคเพื่อไทยจะทำให้พี่น้อง เพราะถ้าพี่น้องปันใจให้พรรคอื่น เราจะไม่ได้ส.ส.เข้าไปโหวตนโยบายที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจจะเข้าไปทำให้พี่น้องประชาชน

• ‘ก้าวไกล’ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่สระแก้ว ‘พิธา’ ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ เชื่อกระแสลมการเมืองเปลี่ยน ‘บ้านใหม่กว่า‘ พร้อมสู้ ‘บ้านใหญ่‘

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส. เปิดเวทีปราศรัยแรกภาคตะวันออกได้รับการต้อนรับจากชาวสระแก้วอย่างอบอุ่น พร้อมระบุว่า การลงพื้นที่ภาคตะวันออก นอกจากเป็นการเยือนถิ่นที่หลายคนมองว่ามี ‘บ้านใหญ่’ เพื่อเสนอตัวให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลเป็นทางเลือกที่ดีของประชาชน

นายพิธา กล่าวว่า ตั้งใจมานำเสนอนโยบายของพรรคที่จะยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะนโยบายปฏิรูปที่ดิน ที่ทราบว่าประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน ที่ผ่านมาที่ดินในประเทศไทยตกอยู่ในมือของนายทุน ขุนศึก ศักดินา มานานเกินไป เฉพาะกองทัพบกมีที่ดินเกือบ 5 ล้านไร่ อยู่ที่สระแก้ว 1.5 แสนไร่ พรรคก้าวไกลเห็นว่าต้องกระจายที่ดินที่มีความกระจุกตัวแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินของกองทัพ หรือ ที่ดิน ส.ป.ก. ให้กลายเป็นโฉนดเพื่อเป็นที่ดินทำกินของประชาชน

“พิธาพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 วันนี้เชื่อว่ากระแสลมทางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว นอกจากกระแสของบ้านใหญ่ที่พัดในภาคตะวันออก ก็มีกระแสของ ‘บ้านใหม่กว่า’ ที่พร้อมปักธงทั่วทั้งภาคตะวันออกเช่นกัน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

พรรคก้าวไกลมีนโยบายสวัสดิการ ที่รองรับคุณภาพชีวิตประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่น ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นทุกปี เริ่มที่ 450 บาท สวัสดิการเด็กแรกเกิด 3,000 บาท เบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งประเทศ ทำรถเมล์พลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษและสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ขอให้ชาวสระแก้วเลือกพรรคก้าวไกลให้แลนด์สไลด์ ปักธงส้มทั้งจังหวัด ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ในวันนี้พิธาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่ถ้าวันหน้าพี่น้องสระแก้วเลือกพรรคก้าวไกลจะได้พิธาเป็นหัวหน้ารัฐบาล

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย

(1) นายยุทธชัย รำไพวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 2

(2) นายปรมินทร์ จันทรกาล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 3

• ‘รวมไทยสร้างชาติ’ เปิดตัว ‘ชญานันท์ จินดาเจี่ย’ ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี น้อยที่สุดในพรรค

พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวน.ส.ชญานันท์ จินดาเจี่ย วัย 25 ปี เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรีถือเป็นผู้สมัคร ส.ส.ที่อายุน้อยที่สุดของพรรค ลูกสาวนายสุวิทย์ จินดาเจี่ย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกลางนา อ.เมือง จ.ราชบุรี

น.ส.ชญานันท์ เปิดเผยว่า มั่นใจในนโยบายพรรคว่าจะแก้ปัญหาได้จริง หวังพัฒนาราชบุรีให้เป็นจังหวัดท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ให้ประชาชนไม่ใช่แค่ทางผ่าน ขอเป็นตัวแทนลงสมัครในครั้งนี้ เพราะตนเกิดและเติบโตที่ จ.ราชบุรี ได้เห็นปัญหาของชาวราชบุรี มาโดยตลอดและที่ผ่านมาก็มีความสนใจเรื่องการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีโอกาสจึงอยากจะเป็นตัวแทนของชาวราชบุรี เข้าไปทำงานในสภาฯ อยากจะพัฒนาราชบุรี และคิดว่าตอนนี้ถึงเวลาของคนรุ่นใหม่ ที่มีอุดมการณ์ หรือความตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนาประเทศของเราให้ไปต่อ

• แรมโบ้ นำทัพบุกอีสาน ปลูกหมู่บ้านเสื้อแดง-เสื้อเหลือง หนุน ‘ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ’

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำทัพผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง, อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน พร้อมด้วย หนุ่มเสก-เสกสรร ชัยเจริญ จัดกิจกรรม ‘ตุ้มโฮมชาวอีสานเอาลุงตู่เป็นนายกอีกสมัย’

นายเสกสกล กล่าวว่า วันนี้อดีตคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลือง ได้ผนึกพลังร่วมรักสามัคคีให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องการให้ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อไป อยากกราบหัวใจพี่น้องชาวมหาสารคามที่ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจออกมารวมพลังตุ้มโฮมคนอีสานเป็นหนึ่งเดียว เหมือนข้าวเหนียวปั้นให้เหนียวแน่น เพื่อที่จะประกาศศักดิ์ศรีพลังอีสาน เพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี คนอีสานเลือดเนื้อคนอีสาน ที่ชื่อ ‘ลุงตู่’ มาเป็นนายกฯ รัฐมนตรีอีกสมัย ลูกอีสานต้องรักคนอีสานเลือดสีเดียวกันต้องไม่ทิ้งกัน ฝากชาวมหาสารคามเลือกผู้สมัคร ส.ส.และเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

นายเสกสกล กล่าวตอนท้ายว่า คนอีสานไม่ชอบคนขี้โกง คนบ้านเฮาฮักผู้นำที่ใจซื่อมือสะอาดไม่มีประวัติด่างพร้อยในเรื่องโกงหรือทุจริตคอร์รัปชัน ใครคิดจะขึ้นมาโกงกินบ้านเมือง ชาวอีสานจะไม่เลือกเด็ดขาด ขอให้ทุกคนเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเราต้องการนายกฯเป็นคนอีสานเท่านั้น ได้บ่

• พรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวนักบินคุณภาพ ชิง ส.ส. 3 เขต

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้า กทม.ร่วมกับ ทีม กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตบางซื่อ โดยมีชาวเขตบางซื่อมาร่วมแสดงความยินดี พร้อมเปิดตัว 3 นักบิน ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามพรรค ประกอบด้วย

1. นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ (กัปตันเบศร์) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางซื่อ
2. นายวัทธิกร หรุ่นศิริ (กัปตันแพท) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสายไหม
3. นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบึงกุ่ม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทั้ง 3 คน ถือว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนชาว กทม. ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ขอโอกาสพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้กลับมาทำหน้าที่รับใช้ ชาว กทม. เหมือนที่เราเคยมีโอกาสหลายครั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านในอดีต

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ประชาธิปัตย์ทั้ง 33 เขต ช่วงต้นเดือนมีนาคม เพื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวแล้ว ถัดจากนี้การเมืองจะเข้มข้นขึ้น หมายถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองก็จะเข้มข้นขึ้น

“ผมจะถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศ ให้พิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันหลักในทางการเมืองต่อไปได้ พาการเมืองเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต ไม่ใช่แค่การเมืองเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราเลือกอนาคตให้ประเทศ หรือเลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ ไม่ใช่การเมืองเลือกอนาคตเฉพาะกิจให้ประเทศ ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านนั้น พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า เมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนรวมกับพรรคไหน พรรคนั้นก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่หัวใจสำคัญก็คือต้องยึดเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก” นายจุรินทร์ กล่าว