สรุปเหตุ ‘เรือระเบิด’ ริมแม่น้ำวัดท้องคุ้ง เสียหาย 3 ลำ มูลค่า 120 ล้านบาท

คาดไฟฟ้าลัดวงจร ต้นเหตุเรือนำเที่ยวระเบิดไฟไหม้ เสียหาย 3 ลำ ริมแม่น้ำวัดท้องคุ้ง จังหวัดสมุทรปราการ มูลค่าความเสียหายกว่า 120 ล้านบาท 

ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เรือโดยสาร บริเวณท่าเทียบเรือเอกชนแห่งหนึ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้วัดท้องคุ้ง ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 07.30 น. (21 ก.พ. 2566) เจ้าหน้าที่พร้อมหน่วยกู้ภัยลงพื้นที่เกิดเหตุพบเป็นท่าเรือเอกชน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรือโดยสายไฟฟ้าจอดเทียบท่าเรียงกันจำนวน 6 ลำ เพลิงลุกไหม้เรือดังกล่าวอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมกำลังกันฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกโหมไหม้เรือ เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลามไหม้เรือที่จอดอยู่ข้างกัน

การควบคุมเพลิงก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีกระแสลมแรง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบพบเพลิงลุกไหม้เรือโดยสาร เสียหายทั้งหมด จำนวน 3 ลำ รวมมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตแต่อย่างใด

นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู (นคร 45) เปิดเผยว่า กู้ภัยร่วมกตัญญูได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้เรือลำดังกล่าวในเวลาประมาณ 07.30 น. ระหว่างนั้นทางหน่วยกู้ภัยกำลังนำเรือดับเพลิงลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อซ้อมแผนดับเพลิงทางน้ำประจำจังหวัดสมุทรปราการก็ได้รีบนำเรือดับเพลิงลำดังกล่าว พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยจำนวน 7 คน เดินทางมาบริเวณจุดเกิดเหตุก่อนจะใช้เครื่องสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาฉีดใส่เรือลำที่เกิดเพลิงไหม้และก็มีรถดับเพลิงจากจังหวัดสมุทรปราการร่วมฉีดน้ำจากฝั่งบนบก

หลังจากที่กู้ภัยทางเรือเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่าเพลิงได้ไหม้บริเวณครึ่งเรือด้านบนทั้งหมดแล้วเหลือเพียงใต้ท้องเรือ โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังมีเสียงปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับยังคงมีควันจากการเผาไหม้ลอยขึ้นเป็นระยะๆ โดยส่งกลิ่นไปทั่วบริเวณกว่าหลายกิโลเมตรและจากกลิ่นเหม็นไหม้ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเรือทั้ง 3 ลำ เป็นเรือไฟฟ้า เพราะกลิ่นเหม็นไหม้นั้นคล้ายกับการเผาพลาสติกสายไฟและแบตเตอรี่ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากการไหม้เรือน้ำมัน