สรุปค่าใช้จ่ายหาเสียง ‘เลือกตั้ง’ กรณียุบสภาและอยู่ครบเทอม ส.ส.ใช้เงินได้คนละเท่าไร

กกต. กำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต แบบบัญชีฯ ทั้งกรณียุบสภา และอยู่ครบเทอม ใช้จ่ายได้ไม่เกินเท่าไร

สำนักประชาสัมพันธ์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยข้อมูลการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2566 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณากำหนดจำนวนค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยให้ความเห็นชอบรูปแบบที่พรรคการเมืองแสดงความเห็นด้วยจำนวนมากที่สุด ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้งและพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เรื่องการคำนวณค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หรือของพรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. แต่ละครั้ง ให้คำนวณตามค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายจริงในการเลือกตั้ง ส.ส.

กรณีเป็นการเลือกตั้งทั่วไปอันเนื่องมาจากการครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร ให้คำนวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่ 180 วันก่อนวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้เลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้ง

กรณีที่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปอันเนื่องมาจากการยุบสภาฯ หรือการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้คำนวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ยุบสภาฯ หรือวันที่ตำแหน่งว่างลง แล้วแต่กรณี จนถึงวันเลือกตั้ง

• ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

– กรณีครบอายุของสภาฯ ใช้จ่ายไม่เกินคนละ 7,000,000 บาท (เจ็ดล้านบาทถ้วน)

– กรณียุบสภาฯ หรือการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ใช้จ่ายไม่เกินคนละ 1,900,000 บาท (หนึ่งล้านเก้าแสนบาทถ้วน)

• พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

– กรณีครบอายุของสภาฯ ใช้จ่ายไม่เกิน 163,000,000 บาท (หนึ่งร้อยหกสิบสามล้านบาทถ้วน)

– กรณียุบสภาฯ หรือการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ใช้จ่ายไม่เกิน 44,000,000 (สี่สิบสี่ล้านบาทถ้วน)

กรณีที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. ใหม่ในเขตเลือกตั้งใด ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่ละคนต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ โดยในเขตเลือกตั้งใดที่ต้องดำเนินการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่ ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งแต่ละคน ต้องใช้จ่ายไม่เกิน 950,000 บาท แต่ในเขตเลือกตั้งใดที่ไม่ต้องรับสมัครใหม่ ใช้จ่ายไม่เกิน 630,000 บาท

กรณีที่ กกต. ประกาศให้เลือกตั้งใหม่ เขตเลือกตั้งใดที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด และต้องรับสมัครใหม่ ใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 950,000 บาท และกรณีที่ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว และมีเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่เกิน 1,900,000 บาท