อนุชา ให้ มหาเถรสมาคม ตัดสินปม พรมหาสมปอง พระมหาไพรวัลย์ ไลฟ์สอนธรรมะ ผิดหรือไม่ ย้ำทุกส่วนอยู่ภายใต้กฎหมายอยู่แล้ว
วันที่ 7 ก.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีพระมหาสมปอง และพระมหาไพรวัลย์ ที่มีการถ่ายทอดสดการสอนธรรมะผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้เข้าชมและติดตามจำนวนมาก มองว่าเป็นเรื่องทางพุทธศาสนา ซึ่งตนเป็นฆราวาสเข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ดังนั้นคงไม่เหมาะสมที่จะให้ความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด เหมาะสมหรือไม่
แต่เชื่อว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นของฆราวาส อีกส่วนหนึ่งเป็นกระแสจากพระสงฆ์จำนวนหนึ่ง และในกระแสของฆราวาสยังมี 2 แนวทาง ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาของสังคม เพราะสังคมย่อมมีความคิดแบบที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และได้มอบนโยบายให้ พศ. ปฏิบัติตามกรอบอำนาจหน้าที่พยายามอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์
นายอนุชา กล่าวอีกว่า มหาเถรสมาคม (มส.) ที่ต้องดูแลกิจของสงฆ์ในเรื่องต่างๆ จะเป็นผู้ตัดสินหรือดูแลขอบเขตของการปฏิบัติในเรื่องของการแสดงธรรมเทศนา เในฐานะคนไทยและชาวพุทธถือว่าศาสนาเป็นหนึ่งในเสาหลักของชาติ มองว่าความขัดแย้งต่างๆ เป็นเรื่องปกติ ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งทางสังคม และความขัดแย้งทางความคิด ล้วนเป็นเรื่องปกติในระบบเสรีประชาธิปไตย แต่เหนืออื่นใดทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายของแต่ละส่วนหรือแต่ละหน่วย ความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไรนั้นต้องอยู่ในกรอบของแต่ละส่วน
“การกระทำต่างๆ จะมีอะไรแอบแฝงหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการนำศาสนาไปเกี่ยวข้องกับสิ่งใดเป็นการแอบแฝงหรือมีการชักนำความคิดเห็นของประชาชนหรือไม่นั้น ต้องให้ มส. วิเคราะห์หรือตัดสินอีกครั้งต่อสิ่งที่พระสงฆ์ทั้ง 2 รูป ได้กระทำ อยากขอร้องว่าศาสนาเป็นเสาหลักของชาติ อยากให้พวกเราช่วยกันประคับประคองศาสนาของเราในยามที่บ้านเมืองต้องการความสงบสุขและสันติ” นายอนุชา กล่าว