เลือกตั้ง 66 ‘ประยุทธ์’ ย้อนถาม ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เก่งตรงไหน เด่นตรงไหน เขาทำอะไร

พล.อ.ประยุทธ์ ลั่นพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่ง ส.ส.ครบ 400 เขต ในการเลือกตั้ง 2566 ฉุนถูกถามจะมีตัวชูแบบ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ที่พรรคเพื่อไทยเพิ่งแถลงเปิดตัวเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยหรือไม่ ย้อนถาม เขาเก่งตรงไหน 

• พล.อ.ประยุทธ์ เมินเพื่อไทยตั้ง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ถาม เขาเก่งด้านไหน

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้มีทำบุญใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมมอบเสื้อพรรคให้อดีต ส.ส. ที่ย้ายมาร่วมอุดมการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์หลังร่วมทำบุญว่า วันนี้ยินดีที่มีน้องใหม่คนรุ่นใหม่เข้ามา เข้าใจดีว่าคนรุ่นใหม่ต้องการอะไรแต่ต้องดูว่าสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้เราได้การยอมรับจากต่างประเทศหลายอย่าง ถูกจัดอันดับต้นๆ ของโลก ผลงานรัฐบาลมีมากมายในสื่อต่างๆ พรรคไหนจะว่ายังไงตนไม่ไปโกรธเคืองหรือไปตอบโต้อะไรให้มาก เพราะยิ่งทะเลาะกันไปจะไม่เกิดประโยชน์ ขอยืนยันว่าประเทศไทยมีโอกาส หลายประเทศกำลังมุ่งเป้ามาหา แต่เราต้องตรวจสอบความถูกต้องว่า เข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ ขอให้ทุกคนรักษาบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งที่มีคุณภาพจะได้ ส.ส. ที่ดีเข้ามาในรัฐบาล ขอให้ได้รับความรักจากประชาชนขอให้ทุกคนชนะการเลือกตั้งทั้งหมด ถ้าได้เข้ามามากที่สุดเราจะมีบทบาทในการทำงานมากขึ้น อยากให้ทุกคนได้ชัยชนะ ไปบอกประชาชนไม่ต้องคิดมากให้เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ

• ‘รวมไทยสร้างชาติ’ จะส่ง ส.ส. ให้ครบ 400 เขต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ถึงเวลานี้พร้อมแน่นอน และจะส่งให้ครบ 400 เขต ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนการตั้งเป้าจำนวน ส.ส. ก็มีอยู่แต่ไม่ขอบอก แต่ทุกคนก็หวังว่าจะได้มาก ทีมเศรษฐกิจก็มีทีมที่ทำอยู่ การทำงานด้านเศรษฐกิจไม่ใช่ว่าจะเด่นที่ใครคนใดคนหนึ่ง หรือเก่งอยู่คนเดียวเพราะภาคเศรษฐกิจจะต้องทำให้ได้กับคนทุกกลุ่ม ทุกภาคส่วนต้องนำไปศึกษาร่วมกันและทำงานเป็นระบบ จะมีคนเก่งเรื่องเศรษฐกิจคนเดียวบริหารประเทศไม่ได้แน่นอน

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน 

พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับว่า เขาเก่งตรงไหน เขาเด่นตรงไหน เขาทำอะไร

ผู้สื่อข่าวตอบว่า เก่งด้านธุรกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ใช่ธุรกิจ ประเทศไทยไม่ใช่การทำธุรกิจ หรือการทำธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ดังนั้นจะต้องหาคนเก่งทั้งหมดทุกส่วนมาคุยด้วยกัน เพราะการทำงานเดินหน้าเศรษฐกิจ ถ้าเดินหน้าแล้วติดกฎหมายก็ทำไม่ได้ การเป็นรัฐบาลหน้าก็จะต้องทำแบบนี้

• ‘เศรษฐา’ ย้ำมาให้คำแนะนำในมุมมองของนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี กั๊กตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดใจหลังได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรค, นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมือง พื้นที่กรุงเทพฯ, นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล และน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค ให้การต้อนรับ

นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ได้มีส่วนร่วมในการให้คำปรึกษา และพูดคุยกับผู้ใหญ่ภายในพรรคมาโดยตลอด วันนี้จึงเป็นฤกษ์ดีที่ถึงเวลาแล้วที่ต้องมาทำงานการเมืองให้มากขึ้น ส่วนการเดินหน้าทำการเมืองเพื่อรณรงค์ไปสู่การเลือกตั้ง ขอให้เป็นขั้นเป็นตอน ตลอดการหาเสียงช่วงที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็ทำได้ด้วยดีมาโดยตลอด แต่คนที่ตั้งครรภ์ 7 เดือนก็มีขีดจำกัด ตนก็พร้อมที่จะมาช่วยในลักษณะที่ตนถนัด

เมื่อถามว่านี่คือก้าวแรกของการเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปถึงขั้นนั้นเลย ขอให้เป็นขั้นตอน เพราะยังมีอีกหลายเรื่อง ซึ่งต้องให้เกียรติสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย โดยมีหลายท่านที่มีความเหมาะสม วันนี้มาเป็นที่ปรึกษาให้ น.ส.แพทองธาร มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่คิดว่าจะช่วยประเทศชาติได้ หลังจากนี้จะไปช่วยหาเสียง ที่ผ่านมาเราทำธุรกิจก็อยู่แค่เมืองหลวงอย่างเดียว ซึ่งการลงพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นการลงพื้นที่ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ไปทำ แต่ก็ต้องมีความเป็นตัวตนของตนเองด้วย และทำในสิ่งที่ถนัด

นายเศรษฐา บอกว่าพร้อมจะลงพื้นที่ หากผู้ใหญ่มอบหมายและขึ้นกับว่าพรรคจะให้ทำอะไรบ้าง ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เมื่อถามว่านายเศรษฐาจะนำทัพเดินสายหาเสียงทั่วประเทศเลยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าใช้คำว่านำทัพเลย เพราะยังมีผู้ใหญ่อีกหลายท่าน และมีคนที่มีคุณภาพเยอะ ขอให้เข้ามาช่วยกันดีกว่า

เมื่อถามย้ำว่าคณะกรรมการบริหารเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยพร้อมจะรับหรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ถึงวันนั้นก่อนดีกว่า ต้องให้เกียรติ หากไปพูดก่อนจะเป็นการกดดันคนอื่นที่มีศักยภาพ ตนเองเป็นน้องใหม่ ยังมีผู้ใหญ่หลายท่านที่มีคุณภาพ เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้พร้อมแล้วหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จะพร้อมหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องพูด เป็นระบอบพรรคการเมือง เราไม่ใช่คนตัดสิน ต้องให้เกียรติผู้บริหารพรรคด้วย ที่สำคัญขณะนี้ยังไม่ยุบสภา ขอทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก่อน ในฐานะที่มีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจมากว่า 30 ปี จะขอทำให้เต็มที่จนถึงที่สุด หวังว่าขอเสนอแนะของตนเองจะเป็นประโยชน์พรรคการเมือง

เมื่อถามว่าพร้อม 100% หรือไม่จัดงานทางการเมือง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ 100% ขอค่อยเป็นค่อยไป และต้องปรึกษาผู้ใหญ่ภายในพรรค

เมื่อถามถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นว่า ประเทศชาติไม่ใช่เรื่องธุรกิจครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง นายเศรษฐากล่าวว่า ท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านพูดอะไร ตนมีวัยวุฒิและประสบการณ์น้อยกว่า ท่านพูดอะไรมาตนก็ต้องฟัง ไม่มีคอมเมนต์อะไรมากกว่านี้

“วันนี้หน้าที่ผมคือ มาให้คำปรึกษา มาให้คำแนะนำในมุมมองของนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี ก็หวังว่าคำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะของผม จะเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมือง” นายเศรษฐา กล่าว

ผู้สื่อข่าวเมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ

นายเศรษฐา กล่าวว่า ท่านเองก็เป็นผู้ใหญ่ ท่านพูดอะไร ตนเองก็มีวัยวุฒิและประสบการณ์การเมืองที่น้อยกว่า คิดว่าที่ท่านพูดอะไรออกมาก็ฟัง ไม่มีคอมเมนต์อะไรมากกว่านี้