เลือกตั้ง 66 ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ลั่นต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น ตำแหน่งอื่นไม่เอา!

ไม่ได้กดดันเพื่อไทย ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ประกาศกร้าว ต้องได้ตำแหน่งนายกฯ เท่านั้น จะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง ตอนนี้เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขั้นตอนจากนี้ต้องมีการเลือกเป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะมีครบ 3 รายชื่อ

เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่าจะรับตำแหน่งนายกฯ เท่านั้น และจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง หากไม่ได้เป็นนายกฯ วันนี้ (3 มี.ค. 2566) ในงานหารือแลกเปลี่ยนกับสมาคมไทย-จีน ที่หอการค้าไทย-จีน เขตสาทร ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งว่า ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งนายกฯ ก็ไม่เอาใช่หรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า “ก็คือไม่เอา แต่ก็อาจจะไปให้คำแนะนำอยู่ข้างหลัง หรือยังเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอยู่ต่อก็ได้ ผมก็ยังเป็นสมาชิกเพื่อไทยอยู่ ทำงานให้คำแนะนำด้านเศรษฐกิจ โดยไม่มีตำแหน่งก็ได้ ตรงนี้ก็สามารถทำได้ มันไม่ใช่ความต้องการ วันนี้เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งขั้นตอนจากนี้ต้องมีการได้รับเลือกเป็นแคนดิเดตนายกฯ และเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ย้ำว่าพรรค พท. ส่งแคนดิเดตนายกฯ ครบ 3 รายชื่อ ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะต้องเลือกว่า ใครจะได้รับความไว้วางใจตรงนี้

เมื่อถามว่า การที่สื่อสารออกไปตีความว่าเราต้องเป็นนายกฯ เท่านั้น

นายเศรษฐา กล่าวว่า ในฐานะที่เราเป็นคนไทยคนหนึ่ง เราก็สามารถทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้เหมือนกัน ถ้าเกิดมีตำแหน่ง ถ้าต้องขับเคลื่อนอะไรจริงๆ แล้ว ตำแหน่งนายกฯ เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจ ก็สามารถทำได้จริง

ถ้าไม่ได้ตำแหน่งนายกฯ แสดงว่าตำแหน่งอื่นๆ อย่าง รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจก็ไม่เอาใช่หรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เอาครับ ตนเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็ได้ เป็นที่ปรึกษาที่ไม่ต้องมีตำแหน่งทางการกับใครในพรรค พท. ซึ่งเราก็ยังเป็นสมาชิกพรรค พท. อยู่ ก็ยังสามารถทำได้

เท่ากับว่าตำแหน่งนายกฯ จะมีอำนาจ ทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้นใช่หรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า มันต้องมีภาคส่วนที่เข้ามาตรวจกัน มีระบบรัฐสภา และมีอะไรหลายๆ อย่าง ตนไม่ได้อยากจะเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องของการเบ็ดเสร็จในเรื่องของอำนาจ มันไม่ใช่

จะเป็นการกดดันพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่าจะต้องเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ เท่านั้น

นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี เรารู้จักกันมานาน เรารู้ตัวตนของตัวเองมานาน เรื่องของการกดดันหรือ เรื่องของการอ้อมค้อมไม่มีแน่นอน ไม่ใช่เป็นนิสัยของตนเองอยู่แล้ว ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคก็รู้ดีว่า ตนเองเป็นคนอย่างไร ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีแน่นอน

เป็นการดีลเข้ามาในพรรคเพื่อไทย เป็นการดีลในตำแหน่งเดียวคือ นายกฯ ใช่หรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้ดีลแบบนั้น แต่ดีลเข้ามาอย่างเดียว คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชวนเข้ามาทำงาน ชวนเข้ามาช่วยให้คำปรึกษา ซึ่งตนก็น้อมรับด้วยความเต็มใจ และรู้สึกเป็นเกียรติ