ปิดอุทยานฯ 7 แห่ง เร่งดับไฟป่า ‘วราวุธ’ ตอกกลับ ‘ก้าวไกล’ วิพากษ์แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้ไปดูเนื้องาน ไม่ใช่เอาแต่พูด

‘วราวุธ’ ตอกกลับ ‘ก้าวไกล’ กรณีวิพากษ์ถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ให้ไปดูเนื้องาน ไม่ใช่เอาแต่พูด แจงปิดอุทยานแห่งชาติในภาคเหนือไป 6-7 แห่ง เร่งดับไฟป่า 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแก้ปัญหาไฟป่าว่า ขณะนี้ได้ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติในภาคเหนือไป 6-7 แห่ง พร้อมโยกกำลังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระดมไปดูแลไฟป่าที่เกิดขึ้น

ส่วนที่วิจารณ์เรื่องงบประมาณการดับไฟป่านั้น ขอทำความเข้าใจว่าเป็นงบของกรมอุทยานฯ ที่ใช้ดับไฟป่าในเขตพื้นที่อนุรักษ์ ระดมอุปกรณ์ เฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุมรักษาดับไฟป่าไม่ให้ลุกลาม พยายามไม่ให้เผาไหม้มากกว่าที่เป็นอยู่ และได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าฯ และส่วนราชการต่างๆ ขอให้เข้มงวด เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้การเผาไหม้ขยายวงมากขึ้น

นายวราวุธ กล่าวถึงกรณีที่นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล วิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้นั้น ต้องขอขอบคุณที่ตั้งข้อสังเกตมา แต่อยากให้เข้าไปดูเนื้องานด้วย ไม่ใช่เอาแต่พูดอย่างเดียวเพื่อให้ได้เนื้อข่าวในช่วงเลือกตั้ง

ที่ผ่านมากระทรวงได้ประสานกับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และขอย้ำว่าเราไม่เคยโทษเกษตรกรหรือกลุ่มชาติพันธุ์ตามที่นายนิติพลเข้าใจผิด รวมถึงไม่เคยบอกว่าเป็นความผิดของบริษัทห้างร้านใหญ่ๆ เพราะเวลาเกิดปัญหาขึ้น เป็นความผิดของทุกคน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ดังนั้น ต้องแก้ไขร่วมกัน เพราะเมื่อเกิดปัญหา PM2.5 มันไม่ได้เลือกว่าจะมาที่เกษตรกร ชาติพันธุ์ นายทุนใหญ่

“ประเด็นที่นายนิติพลพูด อยากให้มีกำแพงภาษีนำเข้าผลผลิตเกษตรนั้น ผมคิดว่าแนวนโยบายที่ถูกต้องและมีวิสัยทัศน์ควรแก้ไขปัญหาในระยะสั้นและระยะยาวด้วย การที่อยู่ๆ จะไปเพิ่มกำแพงภาษีสินค้าเกษตร เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ในระยะยาวจะเกิดปัญหามากกว่า สิ่งที่นายนิติพลพูดถึง ขณะนี้เกิดขึ้นในกลุ่มสหภาพยุโรป แต่กำแพงภาษีนั้นยังไม่เกิดขึ้นกับสินค้าเกษตร”

“ดังนั้น เกษตรกรจะต้องปรับตัว นี่คือสาเหตุว่าทำไมกระทรวงจะต้องเดินหน้าทำงานเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนไม่ต้องเผาผลผลิตที่เหลือจากการเกษตร ต้องขอบคุณนายนิติพลที่เสนอข้อสังเกตมา ตนไม่ได้ทำตัวเป็นฝุ่น และขอฝากว่าสิ่งที่นายนิติพลพูดมานั้น ขออย่าให้เป็นนโยบายฝุ่นก็แล้วกัน คือมองเห็นแต่จับต้องไม่ได้” นายวราวุธ กล่าว