SHARE

คัดลอกแล้ว

‘โรม’ ทวงความคืบหน้าคดี ‘ส.ว.ทรงเอ’ ที่ บช.ปส. ด้าน ผบ.ตร.สั่งสอบข้อเท็จจริง การขอออกหมายจับ-เพิกถอนหมายจับ ‘ส.ว.ทรงเอ’ ขณะที่ ประธานศาลฎีกาตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง ปมเพิกถอนหมายจับ ใน 30 วัน  

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเรื่องการช่วยเหลือ ส.ว. ทรงเอ ให้รอดพ้นคดี กรณีมีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุน มิน ลัต’ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ช.ปส.)

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ ตนได้ทำทุกอย่างแล้ว ทั้งอภิปรายในสภาฯ แสดงหลักฐานเพิ่มเติมที่ ส.ว. ทรงเอ อาจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้องไปยังคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) อัยการสูงสุด ถึงกรณีการถอนหมายจับ ส.ว. ทรงเอ แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหว 

และเหตุผลที่มาแถลงข่าวที่นี่ในวันนี้ เนื่องจาก บช.ปส. ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดให้ดูแลการดำเนินคดีนี้ 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยื่นหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุด ผบ.ตร. มีหนังสือตอบกลับมาบอกว่า ได้ส่งหนังสือที่ตนยื่นและหลักฐานต่างๆ ให้ บช.ปส. แล้ว ซึ่งผู้การ ปส.3 ต้องเป็นผู้รับผิดชอบคดี 

และหากดูในเอกสารชี้แจงของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพญาไท ที่เขียนชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องขอออกหมายจับ ส.ว. ทรงเอ และการเพิกถอนหมายจับต่อ กรรมการตุลาการศาลยุติธรรมแล้ว ยืนยันว่ามีความพยายามวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีจริง 

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากเอกสารของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ จะเห็นความพยายามวิ่งเต้นเพื่อช่วยเหลือให้ ส.ว.ทรงเอ หลุดพ้นจากคดีนี้ พร้อมแจกคำใบ้ อดีตบิ๊กตำรวจ ส. เสือ ที่ไม่อยู่ในราชการแล้ว และมีตำแหน่งสูงมากมีความเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้สัปดาห์หน้า ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องที่ คณะกรรมการป้องกันและปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เอาผิดตุลาการทั้ง 3 ท่าน คือ อธิบดีศาลอาญา รองอธิบดีศาล และผู้พิพากษาเวร เรื่องมีการถอนหมายจับทันที หลังช่วงเช้าที่มีออกหมายจับ ด้วยเหตุผลอ้างว่าเป็นบุคคลสำคัญ ซึ่งตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ไม่ได้ระบุไว้

หลังแถลงข่าว นายรังสิมันต์ ได้นำแผ่นป้ายข้อมูลกรณี ส.ว.ทรงเอ ที่เคยใช้ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปติดตั้งบริเวณรอบๆ บช.ปส. 

  • ผบ.ตร.สั่งสอบข้อเท็จจริง การขอออกหมายจับ-เพิกถอนหมายจับ ‘ส.ว.ทรงเอ’

ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า เห็นเอกสาร 7 แผ่นที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ เขียนชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องขอออกหมายจับ ส.ว.ทรงเอ และการเพิกถอนหมายจับต่อ กรรมการตุลาการศาลยุติธรรมแล้ว จึงสั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบที่มาที่ไปของเอกสารดังกล่าว  

รวมถึงขั้นตอนและข้อเท็จจริงของการขอออกหมายจับ และเพิกถอนหมายจับต่อศาลอย่างละเอียด ซึ่งจะไม่เข้าไปก้าวล่วงการใช้ดุลพินิจของศาล    

เบื้องต้นทราบว่า ไม่ได้มีการรายงานการขอออกหมายจับ และเพิกถอนหมายจับ ให้กับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ 3 วันรับทราบ 

กรณีเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 พ.ต.ท.มานะพงษ์ ร้องทุกข์กล่าวโทษให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดดำเนินคดีกับ ส.ว.ทรงเอ หลังถอนหมายจับ โดยมีการระบุให้ออกหมายเรียก มาสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ตามเอกสารชี้แจง 7 แผ่น ข้อที่ 19 นั้น ประเด็นนี้ ผบ.ตร. บอกว่า เรื่องไม่ได้เงียบหาย หรือล่าช้า พร้อมย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

ผบ.ตร. ยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้กำกับ, รองผู้กำกับ และ พ.ต.ท.มานะพงษ์ สารวัตรที่ทำคดี ส.ว.ทรงเอ พ้นจากตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะสารวัตร และรองผู้กำกับ การโยกย้ายเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยประเมินจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งเห็นว่าตำรวจที่ย้ายมาแทนสามารถทำผลงานได้ดีกว่า ทั้งนี้ คดีเครือข่ายยาเสพติดของนาย ทุน มิน ลัต เกิดขึ้นก่อนที่ตนจะเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. แต่ก็จะดำเนินการให้เกิดความชัดเจน 

  • ปธ.ศาลฎีกาตั้ง กก.สดับตรับฟังข้อเท็จจริง รายงานผล ปมเพิกถอนหมายจับ ส.ว.ดัง

นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรมเปิดเผยความคืบหน้าหนังสือร้องเรียนไปยังกรรมการข้าราชการตุลาการ (ก.ต.) ของ ตำรวจ สน.พญาไท เกี่ยวกับการร้องขอออกหมายจับ ส.ว.คนดัง ว่า วันนี้นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกาได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบรวบรวมข้อเท็จจริง เพื่อรายงานต่อประธานศาลฎีกาภายใน 30 วัน 

โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริงโดยสามารถขอความร่วมมือผู้ที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อเท็จจริงเพื่อนำเสนอไปยังประธานศาลฎีกาพิจารณามีคำสั่งต่อไป

โดยคณะกรรมการดังกล่าวยังไม่ใช่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และยังไม่ใช่ขั้นตอนการดำเนินการทางวินัย ยังไม่ถึงขนาดมีอำนาจเรียกบุคคลมาสอบ เป็นเพียงการขอความร่วมมือเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงรายงานประธานศาลฎีกา

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า