เลือกตั้ง 66 l ‘ธนกร’ ยืนยันไทม์ไลน์ ‘ยุบสภา’ 20 มี.ค.นี้ เผยวันนี้ประชุม ครม. นัดสุดท้าย

‘ธนกร’ เผยวันนี้ประชุม ครม. นัดสุดท้าย ส่วนไทม์ไลน์ ‘ยุบสภา’ เป็นวันที่ 20 มี.ค.นี้ แจงพรรครวมไทยสร้างชาติน้อมรับฟังคำเตือน กกต. ห้ามนำสถาบันมาหาเสียง

ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการประชุม ครม. ในวันนี้ (14 มี.ค. 2566) ว่าน่าจะเป็นการประชุม ครม. ครั้งสุดท้าย

● เมื่อถามถึงไทม์ไลน์การยุบสภา

นายธนกร บอกว่า คงเป็นวันที่ 20 มี.ค.นี้ ตามที่สื่อมวลชนเสนอไป

● เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหนังสือเตือนพรรคการเมืองห้ามนำสถาบันมาหาเสียง

นายธนกร ชี้แจงว่า เราก็ต้องรับฟัง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้กำชับบรรดาแกนนำทุกคนว่าให้ปฏิบัติตามระเบียบ กกต. อย่างเคร่งครัด และเราก็ต้องรับฟัง

● กรณีเหตุความวุ่นวายที่บ้านโป่ง ที่ตำรวจคุมตัวผู้เห็นต่างที่มาแสดงความเห็น

นายธนกร กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าระหว่างที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ ส่วนใหญ่พื้นที่จะได้รับประโยชน์ การที่มีประชาชนบางส่วนเห็นต่างสามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตำรวจก็ต้องทำความเข้าใจว่าอาจมีการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ซึ่งแนวทางปฏิบัติต้องเป็นไปตามหลักสากล นายกรัฐมนตรีไม่ได้ทราบมาก่อน ว่าจะมีผู้เห็นต่างมาในพื้นที่ ก็เข้าใจได้ว่าในการลงพื้นที่หลังจากนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เข้าใจดี แต่ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย พร้อมย้ำว่าทุกคนเป็นคนไทย ทำอะไรก็ต้องอะลุ่มอล่วยกัน ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน มองว่าหากตำรวจปล่อยให้กลุ่มเห็นต่างมาแสดงความเห็น อาจทำให้คนส่วนใหญ่ที่มารอต้อนรับนายกรัฐมนตรีไม่พอใจ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในอดีต

นายธนกร ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กระทบภาพลักษณ์นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนละส่วนกัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน ทุกวันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์แต่ตนอยากฝากไว้ว่า การแสดงออกสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ในการลงพื้นที่ของพรรคการเมืองอื่น กลุ่มเห็นต่างก็ไม่ควรปฏิบัติในลักษณะดังกล่าว ชอบหรือไม่ชอบ ให้ไปตัดสินในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย