คนเชียงใหม่ไม่ปลื้ม ครองแชมป์โลกเมืองมลพิษมากที่สุด วันนี้ฝุ่น PM2.5 ทะลุ 730 มก.

เชียงใหม่ฝุ่น PM2.5 ทะลุ 730 มก. ล่าสุดฮอตสปอตเพื่อนบ้านล้อมไว้หมดแล้ว การบินยันไม่กระทบ 

คุณภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่วิกฤตหนัก ประชาชนต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางฝุ่นควันที่ปกคลุมหนาแน่นไปทั่วทั้งจังหวัด ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือ ซีซีดีซี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 รายชั่วโมง ในช่วงสายวันนี้พบสูงสุดที่บ้านอรุโณทัย อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ 730 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นตัวเลขค่าฝุ่นรายชั่วโมงที่สูงที่สุดในรอบหลายปี เช่นเดียวกับในเขตตัวเมืองที่ค่าฝุ่นเกิน 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแทบทุกจุด และในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่ยังครองอันดับเมืองมลพิษทางอากาศย่ำแย่เป็นอันดับหนึ่งของโลกติดต่อกันเป็นวันที่สอง

ส่วนสถานการณ์ไฟป่าทวีความรุนแรงมากขึ้น สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า เผยภาพถ่ายดาวเทียมพบจุดความร้อนหรือฮอตสปอตจากไฟป่าใน 24 ชั่วโมงหนาแน่นเต็มพื้นที่ พบกระจุกตัวหนาแนนในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เมียนมา 12,581 ลาว 8,535 ส่วนประเทศไทย 4,376 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ 2,103 จุด

ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่าฝุ่นควันที่ปกคลุมหนาแน่นยังไม่มีผลกระทบต่อการขึ้นลงอากาศยานที่สนามบินเชียงใหม่ โดยวันนี้ทัศนวิสัยอยู่ที่ประมาณ 4,000 เมตร ขณะที่เครื่องบินพาณิชย์ทุกลำมีเครื่องวัดประกอบการบินและนักบินถูกฝึกมาอย่างดี ส่วนท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ มีระบบช่วยเดินอากาศทันสมัย สามารถนำร่องให้อากาศยานขึ้นลงได้อย่างปลอดภัย

เว็บไซต์ IQAir ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2566 รายงานคุณภาพอากาศประเทศไทยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เป็นอันดับที่ 1 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่อยู่บริเวณพื้นที่สีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

สำหรับคุณภาพอากาศวันนี้ (26 มี.ค. 2566) ภาพรวมปริมาณ PM2.5 เกินค่ามาตรฐานใน 21 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.นครพนม จ.มุกดาหาร และ จ. อุบลราชธานี

• ภาคเหนือ : เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 37 – 459 มคก./ลบ.ม.
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เกินค่ามาตรฐาน 6 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32 – 160 มคก./ลบ.ม.
• ภาคกลางและตะวันตก : ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 17 – 40 มคก./ลบ.ม.
• ภาคตะวันออก : ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 9 – 22 มคก./ลบ.ม.
• ภาคใต้ : ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13 – 20 มคก./ลบ.ม.

ติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com, airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ แอปพลิเคชัน AirBKK