ขสมก. ตั้งกรรมการสอบ คนขับรถเมล์สาย 82 ชนหญิงข้ามทางม้าลายเสียชีวิต พร้อมเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต

วันที่ 12 มี.ค. 2565 ครอบครัว น.ส.สุภา แก่นนาคำ อายุ 49 ปี อาชีพขายของตรงถนนพระอาทิตย์ ถูกรถเมล์สาย 82 ชน ขณะกำลังข้ามถนนบนทางม้าลาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2565 ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ทางม้าลายสี่แยกบางลำพู กทม.

นายมานะ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ไม่เห็นจังหวะที่รถเมล์ชนผู้เสียชีวิต แต่เห็นหลังจากนั้นซึ่งผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนถนน ใต้ท้องรถเมล์ ศีรษะแตก มีเลือดไหลจำนวนมาก ที่ขามีเลือดออกและข้าวของที่ถือมาก็กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ยอมรับว่าที่ผ่านมาเห็นคนถูกรถชนทางม้าลายแห่งนี้อย่างน้อย 2 ราย ก่อนหน้านี้เป็นชาวต่างชาติถูกชนขาหัก

ด้านนายสมพงษ์ อายุ 44 ปี วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่อยู่บริเวณสี่แยกบางลำพู มากว่า 10 ปี ให้ข้อมูลว่า เห็นอุบัติเหตุแบบนี้มามากกว่า 10 ราย ทั้งชาวต่างชาติและคนไทย ส่วนใหญ่ถูกชนบนทางม้าลาย รถที่ชนส่วนใหญ่เป็นรถเมล์ โดยทางม้าลายจุดนี้เป็นจุดอับสายตา หากเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลื่อนทางม้าลายออกไปให้ห่างโค้งอีกสัก 10 เมตร

น.ส.ชัญปภา ยุตานนท์ ญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ยังคลางแคลงใจว่าทำไมคนขับที่เลี้ยวขวาตีวงแคบเกินไป อาจจะเป็นเพราะความเคยชินทำให้ประมาทหรือไม่ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ขสมก. ยอมรับว่า คนขับรถเมล์ยอมรับผิดว่าขับรถผิดจริง อ้างว่า มองไม่เห็นแต่ขับมาไม่เร็ว ซึ่งสวนทางกับคนเห็นเหตุการณ์ระบุว่าขับมาเร็ว โดยทาง ขสมก. จะเยียวยาตามสิทธิพ.ร.บ. และมีเงินค่าทำศพให้ ส่วนการรักษาที่ผ่านมา ใช้สิทธิประกันสังคมของผู้เสียชีวิตประมาณ 40,000 บาท จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวจากขสมก. และยังไม่ทราบว่าจะได้รับเมื่อไร

ด้านนางนิล แก่นนาคำ อายุ 71ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานเลี้ยงสมาชิกในบ้าน 6 คน การสูญเสียลูกสาวไปยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ชีวิตครอบครัวน่าจะลำบากขึ้น ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเสนอให้ ขสมก. มาติดต่อแสดงความรับผิดชอบให้เร็วกว่านี้ ส่วนคนขับรถเมล์ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายจัดการ

ขณะที่ น.ส.เบญจวรรณ เปี่ยมสุวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ 2 เปิดเผย ผลการสอบสวน คนขับรถเมล์คันเกิดเหตุ ซึ่งรถเมล์สาย 82 จอดติดไฟแดงเป็นคันที่ 3 โดยคันแรก รถเมล์สาย 6 คันที่2 เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล พอสัญญาณไฟเขียว รถไปเปลี่ยนเกียร์ขับเลี้ยวตามกันมา แต่ในจังหวะนั้น ผู้เสียชีวิตเดินตัดหน้ารถ ยืนยันว่า รถเมล์คันที่เกิดเหตุไม่ได้ฝ่าไฟแดง

ส่วนการตีวงแคบกว่ารถเมล์คันอื่นตอนนี้ทาง ขสมก ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งในรถและนอกตัวรถ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนการเยียวยา ทางกองทุน ขสมก.ได้มอบค่าบำเพ็ญกุศลศพ 3,000 บาท โดยวันนี้จะเดินทางไปเคารพศพ รวมถึงประกันภัยอุบัติเหตุ จากเมืองไทยประกันภัย คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 5 แสนบาท และประกันภัยประเภทสาม กรณีรถโดยสารเกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต วงเงินประกัน 1ล้านบาท รวม 1,500,000 บาท ที่จะมอบให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้น ทางขสมก.ยืนยัน รับผิดชอบทุกขั้นตอน โดยที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีกรณีรถขสมก. ชนคนจนเสียชีวิต