SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 12 ก.พ. 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตำรวจและ ดีอีเอส ได้เดินทางกลับจากกัมพูชาแล้ววานนี้ พร้อมนำผู้ต้องหา 21 ราย กลับมาดำเนินคดีได้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนและคณะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อพบกับ พล.อ.เซา ซกคา รอง ผบ.สส. และ ผบ.สห. (Gendarmerrie) ผู้แทนฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือปฏิบัติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ฝังตัวอยู่ในกัมพูชา ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 11 ก.พ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 3 จุดพร้อมกัน

จุดที่ 1 – อาคาร Y.N Hotel กรุงพนมเปญ ชั้น 4-8 ใช้เป็นสถานที่พักอาศัยของผู้ต้องหาโดยใช้ชั้น 9 เป็นสถานที่ในการชักชวนผู้เสียหายหลอกลงทุน มีคนจีนเป็นหัวหน้าและผู้ควบคุมการทํางาน ลักษณะการเป็นการหลอกลวงให้ลงทุนในการซื้อขายเหรียญสกุลดิจิทัล ผ่านเว็บไซต์ Digital Alliance มีผู้เสียหายเป็นคนไทยจํานวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย

จุดที่ 2 – อาคารตรงข้าม Sokha Vegas Caniso ในเมืองพระสีหนุ เป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นบนสุดใช้เป็นสถานที่พักอาศัย และทํางานในการโทรมาหลอกลวงผู้เสียหายที่ประเทศไทย โดยแอบอ้างเป็น เจ้าหน้าที่ตํารวจ และ DSI มีคนจีนเป็นหัวหน้าคอยควบคุมดูแลสั่งการ และบังคับไม่ให้ออกไปด้านนอก ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงเพราะความกลัว มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย

จุดที่ 3 – อาคาร Chinatown GM Office ในเมืองพระสีหนุ ซึ่งเป็นที่พักและที่ทํางานในการชักชวนผู้เสียหายหลอกลงทุน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม มีกลุ่มคนจีนควบคุมแต่ละกลุ่ม ลักษณะการหลอกลวงให้เล่นเกมส์แบบพิชิตเป็นภารกิจโดยส่งลิ้งค์ผ่านเว็บไซต์ 888168hs.com เพจ ct make money อ้างตัวเป็นเครือของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และ ปตท. หรือ กลุ่ม PTTEP มีผู้เสียหายเป็นคนไทยจํานวนมาก มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้อีก 13 ราย

ทั้ง 3 จุด สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 21 ราย โดยเจ้าหน้าที่กัมพูชาจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว เพื่อกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในข้อหา เป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

สำหรับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะเร่งรัดดำเนินการติดตามตัวเพื่อส่งตัวกลับประเทศไทยโดยเร็ว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อีกกล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้หารือเป็นทางการกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา และได้นำหมายจับมอบให้กับกัมพูชาถึง 71 หมาย ซึ่งถือว่ามากที่สุดที่เคยมีมา และสามารถจับได้ถึง 21 ราย นอกจากนี้ได้ร้องขอหากพบมีคนไทยถูกหลอก ถึงแม้จะไม่มีหมายจับก็ขอให้ส่งตัวให้กับประเทศไทยเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขานุการ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางได้รับเรื่องร้องเรียนมามากและต้นตออยู่ที่ประเทศกัมพูชา ครั้งนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ได้มอบหมายให้มาครั้งนี้เพื่อหารือกับประเทศกัมพูชา ในการทำ MOU การประสานงานในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไทยเข้ามาทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า