จุดจบที่ ‘จีนเทา’ กลัวที่สุด? ชะตากรรมตระกูลหมิง เจ้าพ่ออาณาจักรคอลเซ็นเตอร์ ‘โกก้าง’

พลิกเมียนมาล่าล้างโคตร

บทอวสานตระกูลหมิง

เจ้าพ่อ ‘คอลเซ็นเตอร์’ โกก้า

เมื่อ 2 ปีก่อน ชื่อของ ‘โกก้าง’ ถูกพูดถึงในประเทศไทย จากการลุกฮือของกองกำลังชาติพันธุ์ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา

แต่เบื้องหลังถูกมองว่า จีนสนับสนุนปฏิบัติการนี้ เพื่อให้ช่วยกวาดล้างขบวนการหลอกลวงออนไลน์ที่ใช้พื้นที่ชายแดนจีน-เมียนมาที่จุดนั้นเป็นฐานที่มั่น

ผลลัพธ์สำคัญ คือการจับกุม ‘ตระกูลหมิง’ ผู้ทรงอิทธิพลในโกก้าง และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สร้างอาณาจักรหลอกลวงออนไลน์ที่นั่น ซึ่งวันนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลแล้ว

เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร วันนี้สำนักข่าวทูเดย์ร้อยเรียงชะตากรรมของยักษ์ใหญ่จีนเทาครอบครัวนี้มาเล่าให้ฟัง

ตระกูลหมิงในโกก้าง เติบโตขึ้นมาตั้งแต่ปี 2015 โดย ‘หมิง ชื่อฉาง’ (Ming Xuechang) และสมาชิกในครอบครัว ได้เริ่มจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในหลายพื้นที่ เช่นในเมืองเล่าก์ก่าย เพื่อดึงดูดนักลงทุน โดยมีกองกำลังติดอาวุธของตัวเอง เพื่อการันตีความปลอดภัยในพื้นที่

ต่อมานิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวถูกแปลงเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมออนไลน์ ทั้งการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม และการพนันออนไลน์

ขณะเดียวกัน สมาชิกตระกูลหมิงยังสยายปีกเข้าไปมีบทบาทฝ่ายบริหารในโกก้าง โดยหมิง ชื่อฉาง เคยเป็นสมาชิกสภารัฐฉาน กรรมการผู้นำรัฐฉาน และเป็นประธานเขตปกครองโกก้าง

เช่นเดียวกับหมิง เกาผิง (Ming Guoping) ลูกชาย ก็เข้าไปเป็นผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนโกก้าง (Kokang Border Guard Force) ในเวลาต่อมา

และแล้วความรุ่งโรจน์ของตระกูลหมิงก็พังทลายลง เมื่อทางการจีนตัดสินใจกวาดล้างแหล่งอาชญากรรมออนไลน์หนักขึ้น จนนำไปสู่ปฏิบัติการ 1027 อันโด่งดังเมื่อปี 2023

ตระกูลหมิงแห่งโกก้างเห็นสัญญาณมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น รายงานระบุว่า เมื่อเดือน ต.ค. 2023 ก่อนปฏิบัติการ 1027 ไม่นาน เครือข่ายตระกูลหมิงได้ปรับแผน สั่งการให้กองกำลังติดอาวุธยกระดับการเฝ้าระวัง และวางแผนโลจิสติกส์ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกทลายเครือข่าย

ตอนนั้นตระกูลหมิงได้ปิดตายพื้นที่ไม่ให้มีใครหลุดรอดออกมาได้ พร้อมสั่งสมยุทโธปกรณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็โยกย้ายเงินจำนวนมากไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ทางการจีนเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า พบหลักฐานในช่วงนั้นที่คนของตระกูลหมิงสังหารชาวจีนที่พยายามหลบหนีออกจากพื้นที่ด้วย

แต่สุดท้ายตระกูลหมิงก็ไม่รอด เมื่อกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ 3 ฝ่ายเปิดปฏิบัติการในเมืองเล่าก์ก่าย โจมตีกองกำลังฝ่ายรัฐบาลทหารเมียนมา แถมยังสั่นคลอนฐานอำนาจของตระกูลหมิงโดยตรง

วันที่ 15 พ.ย. 2023 ศาลสูงสุดในเขตปกครองตนเองโกก้างได้ออกหมายจับ 4 บุคคล ตามหมายจับของทางการจีน ได้แก่ หมิง ชื่อฉาง, หมิง เกาผิง รวมถึงหมิง จูหลาน และหมิง เจินเจิน ซึ่งเป็นลูกสาวและหลานสาวของหมิง ชื่อฉาง

ปฏิบัติการจับกุมเกิดขึ้นทันทีในวันต่อมา โดยมีรายงานว่า หมิง ชื่อฉางขัดขืน และยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บ

ตระกูลหมิงถูกส่งตัวไปยังประเทศจีน และถูกตั้ง 11 ข้อหา ตั้งแต่ฉ้อโกง ฆาตกรรมโดยเจตนา กักขังหน่วงเหนี่ยว เปิดบ่อนการพนัน ค้าประเวณี ค้ายาเสพติด ข้ามแดนผิดกฎหมาย และละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ทางการจีนเปิดเผยว่า ตระกูลหมิงแห่งโกก้างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารพลเมืองจีน 14 คน บาดเจ็บ 6 คน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงมูลค่าความเสียหาย 10,000 ล้านหยวน หรือเกือบ 50,000 ล้านบาท

หลังถูกจับกุมไม่นาน หมิง ชื่อฉาง หัวเรือใหญ่ตระกูลหมิง ตัดสินใจฆ่าตัวตายหนีความผิด เหลือลูกชาย ลูกสาว หลานสาว และผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของทางการจีนต่อไป

เมื่อปลายปีที่แล้ว ผู้ต้องหาคดีตระกูลหมิงรวม 39 คน ถูกอัยการสั่งฟ้องศาลในเมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14-19 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลในเมืองเวินโจวเริ่มทำการไต่สวนต่อเนื่อง 6 วัน โดยมีผู้ต้องหา 23 คนปรากฎตัวในห้องพิจารณาคดี

คณะอัยการกล่าวว่า จำเลยเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากอิทธิพลของครอบครัวในพื้นที่ตอนเหนือของเมียนมา จัดตั้งแหล่งซ่องสุมแก๊งอาชญากรรมหลายแก๊ง ให้การคุ้มกันด้วยอาวุธแก่ปฏิบัติการของ ‘ผู้สนับสนุน’ และสมรู้ร่วมคิดในการก่ออาชญากรรมต่างๆ เช่น แผนการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมที่มีเป้าหมายเป็นประชาชนในจีน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะอัยการได้แสดงหลักฐานให้จำเลยแต่ละราย และทนายความของพวกเขาตรวจสอบระหว่างการพิจารณาคดีความ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้อธิบายโต้แย้งตามลำดับ และจำเลยให้การครั้งสุดท้าย ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของสมาชิกสภานิติบัญญัติ ที่ปรึกษาทางการเมือง นักข่าว สมาชิกครอบครัวของผู้ที่เกี่ยวข้อง และสาธารณชนรวมมากกว่า 100 คน

นอกจากการพิจารณาคดีความครั้งนี้ มีการสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวพันกับกลุ่มอาชญากรรมอีกหลายพันราย เนื่องจากพวกเขามีความเชื่อมโยงกับคดีฉ้อโกงทางโทรคมนาคมมากกว่า 10,000 คดี

แหล่งข่าวอัยการระบุว่า อาชญากรรมบางส่วนเกิดขึ้นภายในพรมแดนจีน มุ่งเป้าที่พลเมืองจีนเป็นพิเศษ และสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ร่วมของประชาคมระหว่างประเทศ ทำให้จีนมีอำนาจการพิจารณาคดีความภายใต้กฎหมายอาญาและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ