SHARE

คัดลอกแล้ว

คนจีนเที่ยวไทยต่ำสุดในรอบ 15 เดือน

วิกฤตศรัทธาที่ ‘ฟรีวีซ่า’ ช่วยไม่ไหว

แต่คนไทยแห่เที่ยวจีนพุ่ง

“ไทยเที่ยวจีนแต่จีนไม่เที่ยวไทย” ไม่ได้หมายความว่าคนจีนมาเที่ยวไทยเป็นศูนย์ แต่จากสถิติที่ออกมาล่าสุด ทำให้เราต้องกังวลว่า คนจีนอาจเลือกไม่เที่ยวไทยแล้ว

นี่คือภาพสะท้อนชั้นดีว่า ไทยอาจไม่ได้เนื้อหอมอีกต่อไป และมาตรการ ‘ฟรีวีซ่า’ ไทย-จีน ที่เพิ่งเดินหน้าครบ 1 ปีเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ก็ช่วยดึงดูดคนจีนเที่ยวไทยไม่ได้มาก ยิ่งเมื่อเราเผชิญวิกฤติศรัทธา เรื่องคนจีนไม่มั่นใจความปลอดภัยเมื่อมาเที่ยวไทยซ้ำเติมอีก

ตรงกันข้ามกับในอีกโลกคู่ขนาน มาตรการ ‘ฟรีวีซ่า’ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยไปเที่ยวจีน ในจำนวนที่ผู้ประกอบการจีนยอมรับว่า มากขึ้นเป็นประวัติการณ์ทีเดียว

[วิกฤติศรัทธาเมืองไทย คนจีนเที่ยวไทยอ่อนแรง]

ข้อมูลล่าสุดจากวิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงเร็วกว่าคาด อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวในปีนี้ โดยในเดือน ก.พ. มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน เหลือ 371,452 คน หดตัวสูงถึง 44.9% เมื่อเทียบปีต่อปี ทำให้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 1.18 ล้านคน หดตัว 12.6%

การหดตัวของนักท่องเที่ยวจีน สวนทางกับภาพรวมชาวต่างชาติเที่ยวไทย วิจัยกรุงศรีชี้ว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวทั้งในเชิงจำนวนและรายได้ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทุกประเทศ 6.83 ล้านคน ขยายตัว 6.9% สร้างรายได้ 3.32 แสนล้านบาท ขยายตัว 17%

ซึ่ง 5 อันดับแรกต่างชาติมาเที่ยวไทยมากที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย จีน รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้

วิจัยกรุงศรีตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงแรงและยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดอยู่มาก ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทาง รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นจากจุดหมายปลายทางในประเทศอื่น ๆ ที่มีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่ยังได้แรงหนุนจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวหลักจากมาเลเซีย รัสเซีย และอินเดีย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยโดยรวมในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 38 ล้านคน สูงกว่า 35.5 ล้านคน ในปี 2567 แม้จะยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิดที่ 40 ล้านคน แต่คาดว่าภาคท่องเที่ยวจะยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยในปี 2568

จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยที่หดตัว สอดคล้องกับรายงานของ Bloomberg Intelligence ที่เพิ่งระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนที่วางแผนมาเที่ยวไทย ยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มขึ้นถึง 94% เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยไทยยังมีคู่เทียบสำคัญอย่างญี่ปุ่น รวมถึงชาติในอาเซียนอย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย ที่เป็นตัวเลือกแทนที่ไทย ในกรณีที่นักท่องเที่ยวจีนกังวลเรื่องความปลอดภัย

ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจในประเทศจีนเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยท้าทาย ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจให้ชาวจีนควักเงินไปเที่ยวต่างประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม ภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. มองว่า ปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศจะกระทบกับนักท่องเที่ยวที่อาจมีงบประมาณจำกัด แต่จะไม่ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อปานกลางและกำลังซื้อสูง ตัวอย่างเช่นนักท่องเที่ยวจีนที่ไปเที่ยวภูเก็ต และเลือกจองโรงแรมระดับพรีเมียม

นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า ในปีนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่สำคัญที่สุดสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยหลังจากสถานการณ์โควิด-19 โดยตั้งเป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 7 ล้านคน

ล่าสุด นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ฟันธงเลยว่า ประเทศไทยน่าจะหมดยุคที่มีนักท่องเที่ยวจีนทะลุ 10 ล้านคนแล้ว และถ้าปล่อยแบบนี้ ต่อให้ตั้งเป้าที่ 8 ล้านคนก็ยังยาก

เขายอมรับว่า ปี 2568 น่าจะเป็นปีที่หนักมากสำหรับการผลักดันเป้าหมายตลาดคนยจีนเที่ยวไทย หากความเชื่อมั่นกลับเข้าสู่สภาวะปกติ นักท่องเที่ยวน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยได้ประมาณ 7.3 ล้านคนแต่ยาก เพราะนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะคนใหม่ๆไม่มาเที่ยวไทย เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยในประเทศไทย ที่จีนยังไม่เห็นความจริงจังในการแก้ปัญหา

ถ้าให้มองในระยะสั้น เรายังอาจพอมีความหวังอยู่บ้าง สถานีต่อไปที่ต้องจับตาคือในช่วงเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นวันหยุดเนื่องในวันแรงงาน ว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวไทยในปริมาณมากจนน่าพอใจหรือไม่

[อานิสงส์ ‘ฟรีวีซ่า’ คนไทยแห่เที่ยวจีน]

ขณะที่สถานการณ์ท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจีนเดินหน้ามาตรการ ‘ฟรีวีซ่า’ กับหลายประเทศ ดูเหมือนจะส่งผลเป็นแรงดึงดูดชั้นดี ให้ชาวต่างชาติเดินทางเที่ยวประเทศจีนมากขึ้น รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย

รายงานจากสำนักข่าว Bloomberg เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา พบสัญญาณชัดเจนว่า คนไทยเดินทางเข้าจีนมากขึ้น

Bloomberg ยกสถิตินักเดินทางต่างชาติที่เดินทางเข้ากรุงปักกิ่งของจีน ซึ่งคิดเป็น 10% ของเมืองปลายทางที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าจีน เปรียบเทียบปี 2562 กับปี 2567 พบว่า นักท่องเที่ยวจากไทยเข้าปักกิ่งมากขึ้นถึง 62%

ข้อมูลคาดการณ์ของ Bloomberg สอดคล้องกับสำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีน ที่เปิดเผยว่าอานิสงส์ฟรีวีซ่า ‘นักท่องเที่ยวไทย’ แห่เยือน ‘เฉิงตู’ พุ่งขึ้นกว่า 223%

ซินหัวเปิดเผยว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างเมืองเฉิงตูกับไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากจีนและไทยบังคับใช้ข้อตกลงยกเว้นวีซ่าแก่ผู้ถือหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไปร่วมกันตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 หรือราวหนึ่งปีก่อน

สถิติจากสถานีตรวจสอบการผ่านแดนเมืองเฉิงตูระบุว่าช่วงวันที่ 1 มี.ค. 2567-1 มี.ค. 2568 ปริมาณผู้โดยสารเดินทางจากเมืองเฉิงตูสู่ไทยอยู่ที่ 5.11 แสนคน เพิ่มขึ้น 45.14% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะเดียวกันปริมาณผู้โดยสารชาวต่างชาติเดินทางจากไทยสู่เมืองเฉิงตูอยู่ที่ 1.39 แสนคน เพิ่มขึ้น 223.63% เมื่อเทียบปีต่อปี

ซินหัวรายงานงานโดยอ้าง ‘หลินเสียง’ มัคคุเทศก์ของบริษัทนำเที่ยวท้องถิ่นเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนของจีน ที่เชื่อว่า ปีนี้ น่าจะเป็นปีที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองเฉิงตูมากที่สุดตลอด 20 ปีที่ทำงานมา

หลินเสียงเผยว่าหลายปีที่ผ่านมา ช่วงต้นเดือน ม.ค. จนถึงสิ้นเดือน ก.พ. มักจะเป็นช่วงพักผ่อนจากการทำงานมัคคุเทศก์ แต่ตารางงานเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของปีนี้อัดแน่นจนเกือบเต็มแล้ว เพราะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยอยากมาท่องเที่ยวเมืองเฉิงตูอย่างไม่หยุดหย่อน

เช่นเดียวกับ ‘จิ่งจื้อหง’ ผู้จัดการบริษัทนำเที่ยวท้องถิ่นอีกแห่งหนึ่ง กล่าวว่าบริษัทของเขามีแนวโน้มรับรองนักท่องเที่ยวแบบหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ชาวไทยในเดือน มี.ค. กว่า 100 คณะ โดย “3 สิ่งห้ามพลาด” ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ได้แก่ ถ่ายรูปเซลฟีกับรูปปั้นแพนด้ายักษ์ที่ตูเจียงเยี่ยน เช็กอินร้านหนังสือจงซูเก๋อ และชมวิวตึกแฝดเฉิงตูตอนกลางคืน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ชวี่หน่า (Qunar.com) ของจีนระบุว่า เฉิงตูเป็นหนึ่งในสามเมืองของจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงไทย โดยระบบชำระเงินและการบริการทางการท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นช่วยเพิ่มความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยผู้มาเยือนเมืองเฉิงตู

เช่นเดียวกับอีกหนึ่งเส้นทางยอดนิยม คือ การไปเที่ยวจีนผ่านรถไฟจีน-ลาว ซึ่งจะเข้าจีนผ่าน ‘ด่านโม๋ฮัน’ ในมณฑลยูนนานของจีน ซึ่งเป็นด่านบกขนาดใหญ่ที่สุดบนพรมแดนจีน-ลาว ได้รับรองการเดินทางเข้าออกของนักท่องเที่ยวชาวไทยมากกว่า 32,000 คน ในช่วงปีแรกของข้อตกลงยกเว้นวีซ่าแก่ผู้ถือหนังสือเดินทางบุคคลทั่วไประหว่างจีนกับไทย ซึ่งบังคับใช้ครบรอบ 1 ปี เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ทำให้ไทยเป็นแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองรองจากลาวของด่านโม๋ฮัน

รายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยเลือกเดินทางข้ามพรมแดนด้วยรถไฟเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการเปิดการบริการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนไทย-ลาวอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ของลาว ต่อด้วยนั่งรถไฟจีน-ลาวเข้าสู่จีน

[คนเอเชียแห่เที่ยวจีน แต่นักท่องเที่ยวตะวันตกไม่กระเตื้อง]

แม้ว่ามาตรการฟรีวีซ่าของจีน จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเยือนจีนจำนวนมาก แต่มาตรการนี้ก็ไม่ได้เป็นยาวิเศษ ที่สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าไปในจีนได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ชุดข้อมูลจาก Bloomberg ที่ระบุว่า นักเดินทางจากไทยเข้าปักกิ่งมากขึ้นถึง 62% เมื่อเทียบระหว่างปี 2562 กับ 2567 ได้ให้ข้อมูลการเดินทางเข้าจีนผ่านกรุงปักกิ่งชาติอื่นๆ เอาไว้ และที่น่าสนใจก็คือ สัญชาติที่เดินทางเข้าปักกิ่งมากขึ้น เกือบทั้งหมดเป็นชาวเอเชีย

Bloomberg ระบุว่า เวียดนาม เป็นชาติที่มีอัตราการเดินทางเข้าปักกิ่งมากสุด เมื่อเทียบปี 2562 กับ 2567 โดยเพิ่มขึ้นถึง 283% ตามมาด้วย มองโกเลีย (224%) รัสเซีย (158%) มาเลเซีย (109%) ไทย (62%) อินโดนีเซีย (46%) และสิงคโปร์ (24%)

ในทางตรงกันข้าม นักเดินทางจากชาติตะวันตก หรือชาติเอเชียที่ถูกมองว่าเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ กลับมีสัดส่วนลดลงอย่างน่าประหลาดใจ

ยกตัวอย่างสถิติบางส่วน เช่น นิวซีแลนด์ (-23%) ฝรั่งเศส (-27%) เยอรมนี (-27%) สหราชอาณาจักร (-32%) ญี่ปุ่น (-40%) เกาหลีใต้ (-51%) สหรัฐอเมริกา (-52%)

Bloomberg ได้ยกหลายเหตุผลที่เชื่อได้ว่า ทำให้นักท่องเที่ยวจากชาติตะวันตกเยือนจีนน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีหลายนโยบายดึงดูดใจ

ปัจจัยแรกคือ จำนวนเที่ยวบินที่ลดลง ข้อมูลเมื่อปี 2567 จำนวนเที่ยวบินเข้า-ออกจีน ยังไม่กลับมาในระดับปกติ โดยอยู่ในระดับ 74% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินของสายการบินสัญชาติจีนที่กลับมา คิดเป็น 88% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด ส่วนสายการบินต่างชาติกลับมาแค่ 58% เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากสภาพเศรษฐกิจในจีนเอง ที่ไม่ได้เอื้อต่อการลงทุนแบบในอดีต แถมยังติดภาพกังวลที่จีนล็อกดาวน์ดุเดือดในช่วงโควิด-19 ที่ไม่เป็นมิตรต่อนักลงทุนต่างชาติ หรือแม้กระทั่งภาพลักษณ์จีนในสายตาชาติตะวันตกที่ไม่ได้เป็นบวก แถมติดลบมากขึ้นเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ

กาย รูบิน ผู้ก่อตั้ง ‘Imperial Tours’ เปิดเผยกับ Bloomberg ว่า ลูกค้าชาวอเมริกันของเขาลดลง จากเดิมที่คิดเป็น 90% ของลูกค้าทั้งหมดก่อนช่วงโควิด-19 เหลือเพียงแค่ 40% เท่านั้น

ความท้าทายอีกข้อที่จีนยังเผชิญอยู่ก็คือ นักท่องเที่ยวยังไม่ใช้จ่ายมากเท่าช่วงก่อนโควิด-19 โดยข้อมูลจาก World Travel & Tourism Council ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Oxford Economics รายงานว่า ในช่วงพีกเมื่อปี 2562 นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายในจีนมากถึง 132,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในปี 2567 ชาวต่างชาติใช้เงินในจีนอยู่ที่ 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงถึง 26%

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า