‘ก๊ก อาน’ มาเฟีย สว.กัมพูชา
ไทยออกหมายจับ ตัดท่อน้ำเลี้ยง ‘ฮุน เซน’
ต้นตำรับเจ้าพ่อคอลเซ็นเตอร์ ‘ปอยเปต’
ปฏิบัติการของฝ่ายไทยเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) คือการตรวจค้น 19 จุด หลังออกหมายจับผู้ต้องหาชาวกัมพูชาชื่อ ‘ก๊ก อาน’ ไม่ใช่แค่การปราบขบวนการคอลเซ็นเตอร์ทั่วไป
แต่นี่อาจเป็นแผนตัดท่อน้ำเลี้ยง ‘ฮุน เซน’ อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เนื่องจากชายที่ชื่อ ‘ก๊ก อาน’ คนนี้ไม่ธรรมดา เป็นถึงสมาชิกวุฒิสภากัมพูชาที่ใกล้ชิดกับอดีตนายกฯ กัมพูชาอย่างมาก
เขาคนนี้ยังเป็นเจ้าของกาสิโนใหญ่แห่ง ‘ปอยเปต’ ที่เป็นแหล่งหลอกลวงออนไลน์ระดับต้นตำรับ พบเป็นแหล่งกบดานแก๊งหลอกลวงข้ามชาติจีน ตั้งแต่เกือบ 10 ปีที่แล้วด้วย
[‘ก๊ก อาน’ เจ้าของกาสิโนใหญ่ปอยเปต โยง ‘คอลเซ็นเตอร์’]
ตำรวจไซเบอร์เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่า ได้ปฏิบัติการตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี เป้าหมายสำคัญคือการจับกุมนายก๊ก อาน สัญชาติกัมพูชา หลังศาลอาญาอนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 7 ก.ค.
นายก๊ก อาน คือเจ้าของกาสิโน Crown Casino Resort ที่ปอยเปต รวมถึงตึก 25 ชั้น ตึก 18 ชั้น ซึ่งที่ผ่านมาถูกระบุว่า เป็นฐานของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ขนาดใหญ่ ในเมืองปอยเปตของกัมพูชา
ก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือน มิ.ย. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน เน้นไปยังขบวนการที่ใช้อาคารของนายก๊ก อาน เหล่านี้ หลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ
การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ยังพบการใช้แรงงานคนไทยจำนวนมากที่ถูกหลอกไปทำงานในลักษณะบัญชีม้า พร้อมบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันธุรกรรม และมีพฤติกรรมกักขังหน่วงเหนี่ยวบุคคลในต่างประเทศ
ฝ่ายไทยพบหลักฐานว่า นายก๊ก อาน ไม่เพียงเป็นเจ้าของอาคาร ให้ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ใช้ก่อเหตุเท่านั้น แต่ยังเชื่อว่ามีส่วนร่วมทั้งทางตรงและทางอ้อม รู้ถึงจุดประสงค์ เจตนา อันเป็นการจัดการ สั่งการ ช่วยเหลือ ยุยง อำนวยความสะดวก หรือให้คำปรึกษาในการกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
ผลการตรวจค้นเมื่อวันที่ 8 ก.ค. สามารถตรวจยึดรถยนต์หรูหลายคัน พร้อมกับยึดอายัดเงินจำนวน 27 ล้านบาท
[ต้นตำรับลวงออนไลน์หลอกจีน ใช้กาสิโน ‘ก๊ก อาน’ เป็นฐาน]
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายก๊ก อาน ถูกระบุว่า เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา เพราะเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ปรากฎชื่อนายก๊ก อาน ในรายงานวิจัยชื่อ ‘Policies and Patterns: State-Abetted Transnational Crime in Cambodia as a Global Security Threat’
รายงานฉบับนี้เขียนโดย ‘จาค็อบ ซิน’ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศ ภายใต้หน่วยงาน ‘Humanity Research Consultancy’
ความฮือฮาของรายงานฉบับนี้ คือการชี้ว่า อาชญากรรมออนไลน์ที่กำลังใช้กัมพูชาเป็นฐานที่มั่น กลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ สร้างเม็ดเงินมากกว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอและการผลิตเสื้อผ้า ที่เคยเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ในกัมพูชาไปแล้ว
แถมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงออนไลน์ที่ฝังรากลึกในกัมพูชา ยังกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่เกินกว่าจะล้มอีกด้วย
รายงานฉบับนี้ลงรายละเอียด โดยเอ่ยถึงนักการเมืองหลายคน ที่พบความเชื่อมโยงกับขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และหนึ่งในนั้นคือการพูดถึงนายก๊ก อาน ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา จากพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของสมเด็จฮุน เซน
สิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้น คือชื่อของนายก๊ก อานและกาสิโนของเขา ยังเชื่อมโยงกับเหตุอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วด้วย
รายงานเมื่อปี 2016 พบว่า เจ้าหน้าที่กัมพูชาร่วมมือกับตำรวจจีน เข้าทลายแก๊งชาวจีนมากกว่า 100 คน ซึ่งใช้คาสิโนของก๊ก อาน ที่ปอยเปต คือ ‘Golden Crown Casino’ เป็นแหล่งซ่องสุม
ชาวจีนกลุ่มนี้ ถือเป็นขบวนการหลอกลวงออนไลน์ยุคแรกก็ว่าได้ โดยพวกเขาจะใช้วิธีหลอกเหยื่อที่อยู่ในจีน ผ่านการโทรศัพท์ข้ามประเทศแบบออนไลน์ ผ่านเทคโนโลยีการโทรผ่านอินเตอร์เน็ต (VoIP)
สมัยนั้น แม้การใช้อินเทอร์เน็ตแพร่หลายแล้ว แต่ช่องทางการหลอกยังต้องใช้โทรศัพท์เป็นหลัก แตกต่างจากปัจจุบันที่คนร้ายมีกลวิธีมากขึ้น ทั้งการโทรศัพท์ หรือส่งข้อความ
นี่จึงเป็นการหลอกลวงออนไลน์แบบดั้งเดิม ชนิดต้นตำรับ ซึ่งชื่อของนายก๊ก อานพัวพันด้วยตั้งแต่ตอนนั้น
[ความเชื่อมโยงลวงออนไลน์ ‘ก๊ก อาน’ ลามรุ่นลูก]
และไม่ใช่แค่นายก๊ก อาน ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา แต่ยังลามไปถึงรุ่นลูก ผ่าน ‘ฤทธี สำนาง’ ลูกเขยและ ‘ฤทธี รัศมี’ น้องชายของลูกเขยก๊ก อานด้วย
‘ฤทธี สำนาง’ ลูกเขยของก๊ก อานนั้น เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2022 เป็นที่รู้จักในฐานประธานสโมสรฟุตบอล ‘Phnom Penh Crown’
ลูกเขยก๊ก อาน ถูกระบุความเชื่อมโยงกับขบวนการลวงออนไลน์ จากทรัพย์สินของเขาในสีหนุวิลล์ ซึ่งเคยชึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของกาสิโนและการหลอกลวงออนไลน์มาก่อน
‘ฤทธี สำนาง’ นั่งเป็นประธาน ‘K.B. Hotel’ ซึ่งเป็นโรงแรมในสีหนุวิลล์ ซึ่งนี่ไม่ใช่โรงแรมทั่วไป แต่มีข้อมูลว่าในช่วงปี 2020-2022 โรงแรมแห่งนี้เป็นฐานของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกลวงออนไลนที่ใหญ่ที่สุดในสีหนุวิลล์
หลักฐานชี้ชัดถึงขั้นที่รัฐบาลสหราชอาณาจักร ออกมาตรการคว่ำบาตร ‘K.B. Hotel’ ตั้งแต่ปี 2023 กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงาน สร้างขบวนการหลอกลวงออนไลน์ขนาดใหญ่ (scam farms)
นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงระหว่าง ‘ฤทธี สำนาง’ กับนายซู อ้ายหมิง (Xu Aimin) นักธุรกิจชาวจีน ซึ่งหนีคดีเปิดบ่อนการพนันผิดกฎหมายในประเทศจีน ไปใช้ชีวิตในประเทศกัมพูชา
ส่วน ‘ฤทธี รัศมี’ น้องชายของฤทธี สำนาง ปรากฎชื่อเป็นเจ้าของ ‘K99 Group’ ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับกาสิโนในกัมพูชา และถูกโยงว่าพัวพันกับการหลอกลวงออนไลน์
เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ชื่อของนายฤทธี รัศมี ซึ่งเป็นน้องของลูกเขยก๊ก อานอีกที ปรากฎในข่าวสืบสวนของ Radio Free Asia ที่ตั้งคำถามว่า เงินบริจาคที่กาชาดกัมพูชาได้รับ มีที่มาสกปรกจากการหลอกลวงออนไลน์หรือไม่
โดย Radio Free Asia แสดงหลักฐานเอกสารรับเงินบริจาคมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2021 โดยมีชื่อของนายฤทธี รัศมี เป็นผู้บริจาค
การบริจาคเงินเข้ากาชาด แม้จะเป็นหน่วยงานการกุศล แต่ในกรณีของกัมพูชาถูกมองเป็นเรื่องการเมืองด้วย เพราะผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานกาชาดกัมพูชา คือ บุน รานี ภริยาของสมเด็จฮุน เซน
[‘ฮุน เซน’ ยังพูดถึง โยงถ้าสอบเพราะสนิท ต้องสอบสวน ‘ทักษิณ’ ด้วย]
การออกหมายจับ ตรวจค้นและเดินหน้าจับกุมนายก๊ก อาน เป็นเรื่องที่ทำให้สมเด็จฮุน เซน ออกมาแสดงความเห็น
เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) สมเด็จฮุน เซน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การสอบสวนก๊ก อานของเจ้าหน้าที่ไทย เกิดขึ้นเพราะก๊ก อาน ใกล้ชิดกับสมเด็จฮุน เซน และมองว่าฝ่ายไทยกำลังปล่อยก้อนหินทับเท้าตัวเอง
สมเด็จฮุน เซนบอกว่า ถ้าฝ่ายไทยสอบสวนก๊ก อาน เพราะใกล้ชิดกับเขา ไทยก็ยิ่งต้องสอบสวนนายทักษิณ ชินวัตรด้วย เพราะเป็นที่รู้โดยทั่วไปว่าสนิทกัน ถึงขั้นที่บ้านของสมเด็จฮุน เซนมีห้องรับรองให้โดยเฉพาะ และจะรอดูว่าศาลไทยจะกล้าเปิดการสอบสวนทักษิณหรือไม่
สมเด็จฮุน เซนยังบอกด้วยว่า ขอแสดงความยินดีต่อการเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ของไทย เพราะจะทำให้อาชญากรรมไซเบอร์ไม่ไหลเข้าไปในกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา อาชญากรรมเหล่านี้รุ่งเรือง ผลจากในแผ่นดินไทยไม่มีการตรวจสอบเกิดขึ้น
