“BOSS IN THE BUILDING” การกลับมาอีกครั้งของ BUS because of you i shine ศิลปินจากค่าย SONRAY MUSIC ในผลงานซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม 2 ที่เปิดตัวด้วย Performance Track บอกเล่า Attitude ของการฝ่าฟันทุกอุปสรรค ที่ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่โตขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงจุดยืนในฐานะศิลปินที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ผ่านความไม่แน่นอน ความกดดัน และความคาดหวัง จนก่อร่างเป็นผลงานที่ทั้งแข็งแรง มีมิติ และเต็มไปด้วยตัวตนที่ชัดเจน และในขณะเดียวกัน “BOSS IN THE BUILDING” ยังถูกตีความให้เป็น เพลงรักในเวอร์ชันของคนที่เติบโตขึ้น คนที่พยายามฝึกฝน อดทน และพัฒนาตัวเองให้พร้อมจะอยู่เคียงข้างกับคนที่รัก
เบื้องหลังของ “BOSS IN THE BUILDING” คือทีมโปรดิวเซอร์ Mek Machina และ SMEW ซึ่งหลายคนอาจจำได้ว่าทั้งคู่คือผู้ร่วมวางรากฐานให้กับซิงเกิลเดบิวต์ของ BUS อย่าง “Because of You, I Shine” การที่ซิงเกิลเปิดตัวของทั้งอัลบั้มแรกและอัลบั้มที่ 2 ถูกผลิตโดยทีมโปรดิวเซอร์ชุดเดียวกัน ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความต่อเนื่องทางดนตรีเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง “ความเข้าใจในตัวศิลปิน” อย่างลึกซึ้ง จากวันแรกที่พวกเขาเริ่มต้น จนถึงวันนี้ที่พวกเขาเติบโต
จุดเริ่มต้นของคำว่า “BOSS IN THE BUILDING” มาจาก Olive ท็อปไลน์เนอร์ชาวอังกฤษ ที่พูดประโยคนี้ขึ้นในช่วงต้นของการทำเพลง คำที่ดูเรียบง่ายนี้กลับจุดประกายทีมโปรดิวเซอร์ให้เห็นภาพของ BUS เวอร์ชันใหม่ ที่ไม่ได้พยายามเป็นใคร แต่กำลังเป็น “ศิลปินในแบบของตัวเอง” SMEW ยังคงรับหน้าที่เขียนเนื้อเพลง ด้วยการยึดคำว่า “Boss in the building” เป็นหัวใจในการเล่าเรื่องในครั้งนี้ โดยมี Mek Machina เป็นโปรดิวเซอร์ ที่ได้ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเสียงดนตรีที่ผสมผสานระหว่าง Hip-hop, Trap, EDM และกลิ่นอาย R&B กลายเป็นแทร็กที่ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ แต่กลับยืนหยัดด้วยจังหวะที่แข็งแรง ละเอียด และกล้าเล่าเรื่องในแบบของตัวเอง จนทำให้ “BOSS IN THE BUILDING” เป็นเพลงที่โดดเด่นยิ่งขึ้น เต็มไปด้วยลูกเล่นและจังหวะที่ติดหู รวมถึงท่อนแร็ปและ Dance Break สไตล์ Dubstep ถือเป็นจุดเปลี่ยนของ BUS เป็นพื้นที่ที่พวกเขาได้แสดงศักยภาพในระดับที่ลึกขึ้น แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในร่างกาย ดนตรี และการเคลื่อนไหวแบบที่มีแก่น
โดยท่าเต้นของเพลงนี้ยังได้ KANU ที่เคยอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเพลงเดบิวต์ “Because of you, I Shine” กลับมาสร้างสรรค์สเต็ปที่ทั้งเฉียบคมและมีความหมาย ในการออกแบบท่าเต้น ทำให้ “BOSS IN THE BUILDING” ไม่ใช่แค่เพลงที่โชว์ศักยภาพ แต่กลายเป็นเวทีที่ศิลปินได้สื่อสาร ภาษาของตัวเอง ผ่านร่างกาย จังหวะ และอารมณ์ ท่อน Dance Break แบบ Dubstep กลายเป็นไฮไลท์ที่สะท้อนความกล้า ความมั่นใจด้วยสเต็ปที่ทั้งแข็งแรง และมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว ถือเป็นอีกก้าวของการเติบโต ที่ทั้งแปลกใหม่และน่าจับตามอง
สำหรับ Music Video ได้ผู้กำกับที่มีลายเซ็นต์ชัดเจนอย่าง “ตั้ง ตะวันวาด” มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของ “การต่อสู้กับตัวเอง” ที่ต้องก้าวข้ามความกลัว ความไม่มั่นใจ และอดีตที่เคยฉุดรั้งเราไว้ไม่ให้เป็นตัวของตัวเอง เพื่อจะกลายเป็น “ตัวเราในเวอร์ชันที่ดีกว่า” โดย “ตั้ง ตะวันวาด”หยิบความขบถในสไตล์สตรีทและฮิปฮอปที่เขาถนัดมาหลอมรวมเข้ากับภาพลักษณ์ใหม่ของสมาชิกทั้ง 12 คนของ BUS จนทำให้ภาพใน MV “BOSS IN THE BUILDING” เป็นคัมแบคที่ทั้งดุดัน โตขึ้นและเต็มไปด้วยตัวตนที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
