SHARE

คัดลอกแล้ว

นิคเคอิ (Nikkei) สื่อดังญี่ปุ่นตีพิมพ์บทความระบุว่าเหตุเชื้อโรคโควิด19 แพร่ระบาดที่สนามมวยและเหตุกราดยิงโคราช เผยให้เห็นว่ากองทัพไทยมีการทำธุรกิจมากมายที่เล็ดลอดจากการตรวจสอบ โดยแหล่งข่าวของนิเคอิเชื่อว่าการ “ขายผ้าเอาหน้ารอด” แบบเดิมอาจไม่สามารถกู้สถานการณ์ให้กองทัพได้แล้ว

วันที่ 31 มีนาคม 2563 นิคเคอิสื่อด้านการเงินและธุรกิจชื่อดังของญี่ปุ่นตีพิมพ์บทความเรื่อง “Coronavirus exposes Thai military’s off-the-books enterprises:
Cluster infection at army-owned Muay Thai stadium draws scrutiny” หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า “โคโรนาไวรัสเผยธุรกิจลับของกองทัพไทย-คนหันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้นจากกรณีการติดเชื้อหมู่ที่สนามมวยของกองทัพ” เขียนโดย Marwaan Macan-Markar ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคเอเชีย

เนื้อหาหลักชี้ว่าโคโรนาไวรัสทำให้ธุรกิจของกองทัพถูกจับตามองในวงกว้างอีกครั้ง หลังสนามมวยของกองทัพละเลยคำเตือนจากททท. จนกลายเป็นหนึ่งในแหล่งแพร่เชื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เครือข่ายเหล่านี้ถูกหล่อเลี้ยงด้วยสิ่งที่นักวิพากษ์การเมืองเรียกว่า “วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล” ที่สร้างเงินมหาศาลโดยปราศจากการตรวจสอบมาได้นานหลายสิบปี

บทความระบุว่าการแข่งขันในครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมเป็นคนใหญ่คนโตทั้งในวงการการเมืองและวงการบันเทิง แต่หลังจากมีผู้ติดเชื้อเป็นคนดังก็ทำให้คนหันไปสนใจเครือข่ายธุรกิจของกองทัพที่มีอยู่มากมาย แต่ไม่เคยถูกตรวจสอบ ซึ่งนิคเคอิกล่าวอ้างนักวิชาการด้านความมั่นคงอย่างศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข ว่ากองทัพไทยมีเงินได้จากธุรกิจมากกว่า 15 ประเภทด้วยกัน เช่น สถานีโทรทัศน์ 2 แห่ง สถานีวิทยุ 126 แห่ง ปั๊ม้ำมัน 100 แห่ง สนามกอล์ฟ 30 แห่ง นอกจากนี้ยังมีเงินได้ทางอ้อมจากสนามม้า สนามยิงปืน ร้านอาหาร บรริษัทรับเหมา ร้านสะดวกซื้อ ตลาดนัด และสนามมวย

นอกจากนี้ยังชี้ว่าธุรกิจเหล่านี้เคยสร้างโศกนาฎกรรมระดับชาติให้แก่ประเทศไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จากเหตุกราดยิงโคราช ที่นายทหารรายหนึ่งผิดใจด้านธุรกิจกับผู้บังคับบัญชา ซึ่งนิคเคอิระบุว่า “เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในค่ายทหารต่าง ๆ ทั่วประเทศ ”

“ความเกี่ยวข้องของกองทัพกับธุรกิจเหล่านี้ทำให้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอยู่ในตำแหน่งที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เนื่องจากตัวนายกรัฐมนตรีเองเคยอยู่ในตำแหน่งผบ.ทบ.ที่ทำการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2557 และกลายเป็นรัฐบาลทหารที่เข้าปกครองประเทศจนกระทั่งมีการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา”

“เพื่อกอบกู้สถานการณ์ และรักษาไว้ซึ่งอภิสิทธิ์ของทหารในฐานะองค์กรอันศักดิ์สิทธิ์ พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สัญญาว่าจะมีการปฏิรูปธุรกิจทหาร บริษัทส่วนตัวของกองทัพจะถูกโอนเข้าไปอยู่ภายใต้กระทรวงการคลังก่อนพฤษภาคม” ในจุดนี้แหล่งข่าวของนิคเคอิที่เป็นนายทหารระดับสูงไม่เปิดเผยนามกล่าวว่าทำได้ยากเนื่องจากผลประโยชน์ในธุรกิจเหล่านี้มีมูลค่าหลายพันล้านบาทและยังฝังรากอยู่กับอภิสิทธิ์ที่สั่งสมมาหลายสิบปี อีกทั้งเอื้อต่อวัฒนธรรมทหารตั้งแต่ระดับสูงจนถึงระดับต่ำลงมา เขากล่าวว่า “การเก็บกวาดธุรกิจเหล่านี้ในช่วข้ามคืนเป็นไปได้ยากมาก จะต้องมีแรงต้านจากภายในกองทัพเองแน่นอน เนื่องจากมีหน่วยทหารหลายหน่วยและคนแถวหน้าได้รับผลประโยชน์ที่ได้มาในรูปของสวัสดิการ ครอบคลุมแม้กระทั่งเงินงานศพ”

อย่างไรก็ดี ในตอนท้ายของบทความนิคเคอิสรุปไว้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจากสนามมวยได้ทำให้รากฐานของธุรกิจของทหารที่ถูกปกป้องไว้อ่อนแอลงแล้ว โดยแหล่งข่าวจากฝ่ายข่าวกรองทหารบอก Nikkei ว่า “การแกล้งทำเป็นให้เห็นว่าทหารพยายามปฏิรูปธุรกิจของทหารจะไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ชื่อเสียงของทหารตกต่ำลงเพราะธุรกิจสีเทาพวกนี้ทำราวกับว่ามันไม่อาจถูกแตะต้องได้”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า