Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นิลโลหิต ครุ่นคิดอย่างยียวนและกวนประสาท บนเส้นทางของเพลงแร็ป

ท่ามกลางความดิบ เดือดและระห่ำของวงการเพลงแร็ป การปรากฏตัวของ นิลโลหิต น่าจะทำให้หลาย ๆ คน -ไม่ว่าจะทั้งแร็ปเปอร์หรือคนฟัง- ต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเนื้อเพลงบางท่อนของ นิลโลหิต เข้ากระทบโสตประสาท 

‘ปากนิ่งไม่ได้ทั้งวันต้องแขวะกะเซ็งกะแซ่นัก

พอมีเรื่องเท่านั้นแหล่ะเห็นรีบแถและแก้ยับ

ให้ติ่งมาดิ้นแทนหลบแสดงเป็นแม่ทัพ

ไม่อยากจะลดตัวมาสอดหรือว่าป๊อดกันแน่ครับ’

เนื้อเพลงของเขาปราศจากถ้อยคำหยาบคาย ทว่าก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความดุดัน แถมยังชวนขมวดคิ้วเมื่อบางถ้อยทำนอง บางจังหวะมันมีน้ำเสียงของความยียวนกวนประสาท ชนิดว่าอาจทำให้หัวร้อนได้พอๆ กันหรือบางทีอาจจะมากกว่าการด่าใส่หน้าตรงๆ ด้วยซ้ำ ทั้งหลายครั้งหลายคราว เพลงของเขากลับลุ่มลึกและแฝงไว้ด้วยร่องรอยของการขบคิดอยู่เสมอ และนั่นเองที่เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญของเพลงแร็ปจากนิลโลหิต ชายหนุ่มที่ทำเพลงเองมาตั้งแต่อายุ 17 และสร้างชื่อจากเวที RAP IS NOW ซีซั่นที่ 2 จนติดลมบนมาจนถึงทุกวันนี้

เนื้อเพลงมีความขบถ การตั้งคำถาม เป็นแบบนี้มาแต่เด็กอยู่แล้วไหม?

ตอนมัธยมต้นนี่ผมเป็นเด็กตั้งใจเรียนมากเลยนะ อยู่อันดับท็อปสามของห้องตลอด อันที่จริงผมรู้ตัวมาตลอดนะว่าเป็นเป็นเด็กอาร์ต ชอบเรื่องเกี่ยวกับศิลปะ การแสดง ดนตรีอะไรแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าขึ้นมัธยมปลาย ผมก็ดันจับพลัดจับผลูไปเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ซึ่งก็รู้สึกแหละว่ามันไม่ค่อยตรงสายกับสิ่งที่เราชอบเท่าไหร่ เลยเรียนเอาผ่านแบบได้เกรดสาม (หัวเราะ)

พอสอบมหาวิทยาลัย ก็คุยกับที่บ้านแล้วว่าอยากเข้าสายสถาปัตย์อะไรแบบนี้เพราะเราชอบทางนี้โดยตรง แต่สุดท้ายก็ไปจบที่วิทยาศาสตร์การอาหารครับ ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับที่แร็ปด้วยนะ

พอสักช่วงจะขึ้นปีหนึ่งก็เริ่มทำเพลงจริงจัง คือเพื่อนๆ เขาเครียดแอดมิชชั่นกัน แต่เราติดสอบตรง ยื่นตรงเข้าลาดกระบังไปแล้วเลยสบายๆ มาทำเพลง แล้วเห็นรายการแข่งก็คิดว่าน่าสนุกดี ซีซั่นแรกเราแพ้เลยลองค้นหาตัวเอง และพบว่าเราชอบกวนประสาทชาวบ้านนี่หว่า (หัวเราะ) เลยแอบเป็นความขบถย่อมๆ ของวงการเพราะตอนนั้น ทุกคนมาแบบดุ เถื่อนมาก ต้องเท่ แต่ผมเป็นคนกวนตีนคนเดียว ซึ่งคนก็ชอบนะ

เป็นเด็กช่างคิดหรือเปล่า?

ประมาณนั้นนะครับ เหมือนเราเป็นแบบนี้ตั้งแต่จำความได้และรู้ตัวมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเราเป็นคนคิดประหลาดกว่าคนอื่น ผมมักจะรู้สึกไม่ดีถ้าเรามีสิ่งนี้เหมือนใคร เพราะเราไม่ชอบเหมือนใคร อย่างสมมติว่า ผมมีของเล่นชิ้นหนึ่งแล้วไปเจอว่าเพื่อนคนนี้ก็มีของเล่นชิ้นเดียวกับเราเลย เราก็จะรู้สึกไม่ดีละ ไม่เอา ไม่ชอบเหมือนใคร เราต้องพยายามแตกต่างจากคนอื่นให้ได้

เรื่องพวกนี้มันมีทั้งข้อดีและข้อไม่ดีนะ อย่างข้อดีคือ พอเวลาเราเจอข่าวสารอะไรสักเรื่อง เราจะไม่รับข่าวแค่ข้างเดียว เราจะคิดต่างโดยพยายามเสพข่าวอีกฝั่งหนึ่งด้วยก่อนแล้วค่อยมาประมวลผลเองว่าข่าวไหนมันถูกมันผิดมากกว่ากัน แล้วค่อยเลือกจะเชื่อในข่าวนั้น แต่ถามว่าพวกนี้มันส่งผลให้เพลงของผมมีความขบถหรือดื้อไหม ผมว่าผมดื้อด้วยตัวของผมเองอยู่แล้วนะ จริงๆ ผมเป็นเด็กเรียบร้อยแต่แค่มีแนวคิดดื้อต่อสังคม ไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง

แล้วอย่างนั้นมาเริ่มสนใจดนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่?

ก่อนหน้านี้ ผมมีโอกาสได้ผ่านหูเพลงฮิปฮอปมาตั้งแต่ช่วงประมาณประถม 5-6 แล้วเพราะพี่สาวเขาชอบ เปิดให้ฟังบ่อยๆ โดยเฉพาะพวกเพลงจากวง ไทเทเนียม หรือวง Southside 

เราเลยซึมซับเพลงแนวนี้มาตลอด จากนั้นประมาณช่วงมัธยม 2-3 ผมเริ่มสนใจการเต้นบีบอย แล้วเรามีเพื่อนที่เป็นคนชอบเพลงฮิปฮอปเหมือนกัน ก็ปรากฏว่าเพื่อนเขาแร็ปด้วย เราเลยได้เห็นเขาร้องตั้งแต่ตอนนั้น แต่พอถึงช่วงมัธยม 5 ก็สลับทางกันละ เพื่อนไปเต้นบีบอยส่วนผมมาแร็ป (หัวเราะ) 

ถามว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้ผมมาทำอาชีพเป็นแร็ปเปอร์ (คิด) อย่างคนอื่นเขาจะมีเรฟเฟอร์เรนซ์ในการเขียนเพลง แต่ของผมมันมาจากทัศนคติของผม เราจะดึงแนวคิด ความคิดของเราออกมาเขียนเพลง เช่น ถ้ามีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เราจะดึงความคิดของตัวเองออกมาแสดงความเห็นต่อสถานการณ์นั้นๆ ว่าเราคิดยังไงกับมัน แล้วค่อยสื่อสารเรียบเรียงออกมาเป็นการแร็ป ซึ่งวิธีการแร็ปของผมก็ไม่เหมือนชาวบ้านอีกเพราะผมไม่มีแพตเทิร์นหรือรูปแบบตายตัว

ไม่ได้เรียนดนตรีแต่เขียนและทำเพลงเองได้ตลอด มันทำให้งานเราต่างจากคนอื่นไหม?

ผมสร้างจากอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเองก่อนนะ อันที่จริงก็แล้วแต่ความรู้สึกด้วยว่าเราอยากสื่อสารแบบไหน อยากให้คนฟังรู้สึกแบบไหนไปกับเรา เพราะถ้าเป้าหมายของเราคือการทำให้โชว์มันออกมาสนุก อยากให้เพลงสนุก เราก็ใช้ทำนองที่มันค่อนข้างเร็ว ฟังสนุกไปด้วย หรือมีการเล่นกับดนตรีและองค์ประกอบต่างๆ

แก่นแท้ของการแร็ปมันคือการระบาดความอัดอั้นในตัวเองออกมา ซึ่งความอัดอั้นมันระบายได้หลายวิธี แต่ทัศนคติในการจะแร็ปออกไปมันขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว บางคนอาจจะแสดงออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด บางคนที่เป็นคนโรแมนติกก็อาจจะถ่ายทอดผ่านคำแบบ โอย ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันเหนื่อยมาก

ส่วนตัวผม น่าจะด้วยบุคลิก ธรรมชาติของตัวเอง ที่เป็นคนกวนประสาท เลยใช้วิธีการแซะ เป็นตลกร้ายกลับไป

ส่วนใหญ่เนื้อเพลงของนิลโลหิตไม่ค่อยมีคำหยาบ แต่ช่างประชดประชันมากกว่า เกิดจากอะไร?

ผมว่ามันเป็นเรื่องของรสนิยมมากกว่านะว่าแต่ละคนชอบยังไง เพราะส่วนตัวผมให้ความสำคัญกับความหมายข้างในมากกว่า ส่วนเรื่องอารมณ์มันเป็นเรื่องของสีสันการพาดนตรีไปแค่นั้นเองครับ

สิ่งสำคัญผมว่ามันคือเรื่องของกาลเทศะครับ ผมคิดว่าคุณมีสิทธิที่จะออกเสียงได้แต่ก็ต้องใช้ให้ถูกกาลเทศะด้วยเหมือนกัน อย่างตัวผม ในกาลเทศะของเรา เวลาเราทำเพลงแร็ปออกมาเราชอบจะไม่ใช้คำหยาบเลย เพราะผมรู้สึกว่าเราสามารถจะแสดงออกถึงอารมณ์ตัวเองได้เหมือนกัน

ผมว่าบางที ใครที่ร้อนมาแล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องร้อนกลับ นิสัยส่วนตัวผมก็เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนผมเคยเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก แล้วก็รู้สึกว่าเวลาคนอื่นร้อนมาแล้วเราร้อนกลับนี่มันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย ผมเลยคิดว่าเปลี่ยนจากการบู๊ไปเป็นการบุ๋นดีกว่า

ช่วงสองสามปีให้หลัง กระแสความนิยมเพลงแร็ปในไทยบูมขึ้นมา มันมีปัจจัยอะไรบ้าง?

ผมรู้สึกว่าด้วยธรรมชาติของเด็กฮิปฮอป เขามีความเป็นเอกลักษณ์ ยูนีคของเขาอยู่สูงทั้งเรื่องของวัฒนธรรม เรื่องของสไตล์ เรื่องของแฟชั่น มันมีหลายอย่างที่ชัดเจนมากๆ แต่ถามว่ามันกลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลักในบ้านเราขึ้นมาได้ยังไง ผมมองว่าน่าจะเป็นเรื่องของกระแสสังคมที่ช่วงหนึ่ง เป็นช่วงที่ตลาดของเพลงแนวทั่วไปกำลังซาลง อาจจะเป็นด้วยความเบื่อหน่ายหรือความเคยชินที่เราฟังซ้ำๆ แล้วอยู่ๆ ก็มีฮิปฮอปขึ้นมา ถ้ามองจริงๆ หลายๆ แนวเพลงในวงกว้าง ผมว่ามันเป็นวัฏจักรหนึ่งของมันนะ ซึ่งทุกแนวเพลงมันพร้อมจะขึ้นมาได้รับความนิยมอยู่เสมอ เหมือนช่วงนี้มีกลุ่มคนแนวนี้ ฟังเพลงแนวนี้กันเยอะ เช่น สักสิบปีก่อนที่เราฟังป๊อปร็อคเยอะๆ เต็มเมืองเลย หรือก่อนนั้นอาจจะมีแนวป๊อป ที่ได้รับความนิยมเยอะมากๆ ผมเลยมองเป็นเรื่องวัฏจักรมันมากกว่า เป็นช่วงหนึ่งที่เพลงฮิปฮอปมันได้รับความนิยมและคนก็มองว่ามันเป็นกระแสหลักไปแล้ว

ผมว่าเพลงแร็ปมันเป็นการพูดตรงๆ และสามารถแทนความรู้สึกของคนที่รู้สึกเหมือนกันได้ แนวเพลงบางเพลงอาจไม่ใส่คำหยาบเพื่อให้มันเป็นศิลปะ เพื่อให้ขายได้กับทุกคน แต่ฮิปฮอปหรือเพลงแร็ปมันเลือกจะขบถโดยไม่สนใจใคร เราคิดแบบนี้ เราจึงพูดอย่างนี้

ตอนนี้กระแส Black Lives Matter มาแรงมากๆ ในฐานะที่คุณเองรับเองวัฒนธรรมของคนผิวดำอย่างเพลงแร็ปมาประยุกต์ใช้ มองประเด็นนี้ยังไง?

อันที่จริง ผมไม่ได้ตามประเด็นนี้ขนาดนั้น และรู้สึกว่ามันเป็นประเด็นที่ลึกมากๆ แต่เรามองว่า ประเด็นของการที่มันฝังรากกันมานานจากกลุ่มคนขาวที่เหยียดผิว เราว่ามันคือปัญหาที่แก้กันมานานเพราะมันฝังรากมานาน แต่ผมแค่อาจไม่รู้ลึกในเรื่องประวัติศาสตร์

เพลงของนิลโลหิต มีการตั้งคำถามถึงประเด็นสังคมหรือเชิงโครงสร้างเหมือนกัน มาจากอะไร?

แต่ละเพลงที่ผมคิดและทำออกไปในเชิงจริงจัง ผมอยากชี้ให้เห็นปัญหาแต่ละเรื่องๆ ไป ถ้าพูดถึงปัญหาสังคมอย่างแรกที่ผมมองคือปัญหาผู้คน เพราะสังคมเกิดจากผู้คนหลายๆ คนมารวมกัน อธิบายแบบนี้ มันเกิดจากการที่คนคนหนึ่งต้องการบางอย่างมากกว่าคนทั่วไป ต้องการจะเป็นใหญ่มากกว่า เป็นต้น เลยสร้างสิ่งต่างๆ ตามมาจากนั้นไม่ว่าจะเป็นความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ แล้วพอมันเกิดความไม่เท่าเทียม ทุกคนในสังคมที่เหลือก็จะเกิดปัญหาตามมาด้วย คือเมื่อมีใครสักคนมีอะไรมากกว่าคนอื่น ไปกอบโกยจากคนอื่นจนทำให้คนอื่นๆ เขาเดือดร้อน มันจึงควรแก้ตรงนี้

ถ้าสมมุติสังคมเราเป็นกระจาดผลไม้กระจาดหนึ่ง แล้วเราพบว่าผลไม้ลูกหนึ่งเน่า เราไม่จำเป็นต้องโละผลไม้ทิ้งทั้งกระจาด แต่เราหยิบลูกที่เน่านั้นทิ้งออกไปได้ เพราะลูกที่เน่ามันมีโอกาสจะทำให้ลูกอื่นๆ เน่าไปด้วย ให้เราแก้ที่ลูกเน่าลูกนั้นนั่นเองครับ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า