‘เกาหลีเหนือ’ ยิงขีปนาวุธ 3 ลูกเช้านี้ ส่งท้าย ‘ไบเดน’ จบทริปเยือนเอเชีย

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกเช้านี้ คาดเป็นการทดสอบขีปนาวุธ ICBM หลังไบเดนจบทริปเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการ

วันที่ 25 พ.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกจากชายฝั่งตะวันออกของประเทศในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเพียงไม่กี่ชั่วโมง 

เสนาธิการร่วมของกองทัพเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า ขีปนาวุธลูกแรกได้ถูกยิงออกมาจากเขตซูนัน ในกรุงเปียงยาง เมื่อเวลาประมาณ 6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นราว 37 นาทีได้มีการยิงขีปนาวุธลูกที่ สองตามมา ก่อนจะยิงลูกที่สามตามมาติดๆ หลังจากนั้นเพียง 5 นาที

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงออกมาเป็นลูกแรกนั้นคือขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ซึ่งสามารถร่อนไกลเป็นระยะทางประมาณ 360 กม. ด้วยระดับความสูงที่สุด 540 กม. โดยหากเป็นไปตามที่คาดการณ์ จะนับเป็นครั้งที่ 2 ที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธ ICBM หลังจากที่ยุติการทดสอบไปตั้งแต่ปี 2560 โดยการทดสอบครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา 

ส่วนขีปนาวุธลูกที่สองที่ถูกยิงออกมาในวันนี้ คาดว่าการทดสอบล้มเหลวหลังจากที่พุ่งขึ้นไปแตะระดับความสูงที่ 20 กม. ขณะที่ลูกที่สามเป็นขีปนาวุธซึ่งอาจเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ได้บินร่อนไกลราว 760 กม. โดยมีระดับความสูงที่สุดที่ 60 กม. จากการเปิดเผยของกองทัพเกาหลีใต้ 

ภายหลังการทดสอบขีปนาวุธของเกาเหลีเหนือ ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ได้เรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติโดยด่วน พร้อมกับประณามการกระทำของเกาหลีเหนือว่าเป็น “การยั่วยุร้ายแรงที่คุกคามสันติภาพระหว่างประเทศ”

การทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 17 ที่เกาหลีเหนือดำเนินการในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้ออกมาเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทำการทดสอบขีปนาวุธในช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินทางเยือนเอเชียครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ 

ทางด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ประณามการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า “การยั่;ยุอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ จะยิ่งทำให้เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ต้องร่วมมือกันยับยั้งอย่างเข็มแข็งและเร็วขึ้น และจะยิ่งเป็นการสร้างความแตกแยกมากยิ่งขึ้น” 

ขณะที่เจ้าหน้าที่จากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งเดินทางออกจากญี่ปุ่นเมื่อเย็นวันอังคาร (24 พ.ค.) รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และกำลังรอฟังรายละเอียดเพิ่มเติม